ตามที่เกิดสถานการณ์วาตภัยในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย เมื่อวันที่ 23 พ.ค.2566 นั้น เบื้องต้น มีบ้านเรือน โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ โรงเรือนเก็บพืชผลทางการเกษตร เสาไฟฟ้าล้ม ต้นไม้หักล้มขวางถนน และทรัพย์สินอื่นๆ ของประชาชนได้รับความเสียหายในพื้นที่รวมทั้งสิ้น  5 อำเภอ 17 ตำบล 41 หมู่บ้าน 237 หลัง คอกสัตว์ 11 แห่ง ที่จอดรถ 1 แห่ง ศาลาวัด 1 หลัง บาดเจ็บ 1 ราย

 นางกุหลาบ  ถึงจีน และนางดาวรุ่ง  ถึงจีน 33/1 หมู่ 1 ต.วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ที่ประสบกับพายุลมร้อนมา 3 ครั้ง และครั้งนี้เป็นครังที่รุนแรงที่สุดในรอบ 6 ปี ในขณะเกิดพายุตนเองได้ยินเสียงหวีดของลมดังมาก ในขณะที่ฝนก็ตกลงมาอย่างแรง ตนเองจึงขึ้นบนบ้านไปปิดหน้าต่างบ้าน และไม่คาดคิดว่าจะเป็นเวลาที่พายุมาหอบหลังคาบ้านตนเองปลิวไปต่อหน้าต่อตา ตนเองตกใจมากจึงได้ยืนหลังพิงฝาบ้าน และภาวนาขอให้ลมฟ้าลมฝนหยุดสักที  และเมื่อพายุสงบจึงออกมาตรวจตราความเสียหาย พบว่านอกจากหลังคาบ้านที่หายไปทั้งหมด บ้านญาติพี่น้องใกล้เคียงหลายหลังเสียหาย ข้าวของเปียก ลมพัดกระจัดกระจาย และยังมีโรงบ่มใบยาที่เสียหายอย่างงหนัก คาดความเสียหายครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 4 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินเก็บสะสมจากการขายยาสูบและนำมาต่อเติมบ้าน ครั้งนี้คงซ่อมและตัดส่วนหลังคาออกเพราะกลัวและหากมีลมมาอีกก็ไม่มีเงินจะมาซ่อมแล้ว

 ในขณะที่ นายมานะ โลหะจันที ผู้ช่วยหัวหน้าสถานีใบยาหนองยาวจังหวัดสุโขทัย ออกสำรวจความเสียหายเกี่ยวกับโรงบ่มและใบยาที่ยังไม่ได้ส่งขาย ซึ่งเกษตรกรบริเวณนี้ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบ จึงมาพบปะเพื่อสำรวจและเยียวยาในเบื้อต้นในส่วนของโรงบ่ม ไม่เกิน 5000 บาท ในส่วนของผลผลิตต้องมาประเมินกันอีกครั้ง และอาจหาทางออกด้วยการเพิ่มโควต้าการผลิตให้กับผู้ได้รับผลกระทบในปีต่อไป

ทางด้านการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น นายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ได้สั่งการให้ทุกอำเภอที่ได้รับผลกระทบ แจ้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เร่งสำรวจ และให้ความช่วยเหลือ ทั้งทางงบประมานทางราชการ และการลงข้อมูลผ่านแอปพิเคชั่น “พ้นภัย” ของสภากาชาดไทย เพื่อขอรับถุงธารน้ำใจ พร้อมเร่งให้การช่วยเหลือ เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติโดยเร็วที่สุด

ภาพ-ข่าว ฤดี ธนวณิชย์วรชัย จังหวัดสุโขทัย