ข่าวรายงาน ร.ต.อ.กฤษณะ เอี่ยมสอาด รองสารวัตรสืบสวน กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว แจ้งว่า มีครอบครัวผู้เดือดร้อนจากปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ถูกหลอกลวงให้ไปทำงานในประเทศกัมพูชาโดยผิดกฎหมาย เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ทีมงาน ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยแม่ชีนุชนาท อายุ 55 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ม.2 ต.แม่อ้อ อ.พาน จ.เชียงราย ต้องการให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือบุตรสาว คือ น.ส.อโรชา อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นบุตรสาว ถูกเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้เดินทางข้ามแดนโดยผิดกฎหมายไปทำงานในประเทศกัมพูชา ต้องการให้เจ้าหน้าที่ช่วยประสานงานนำตัวกลับมายังประเทศไทย โดยได้เดินทางไปให้ข้อมูลของบุตรสาว ตำแหน่งสถานที่พักและพิกัดซึ่งถูกกักขังให้ทำงานกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ไว้แล้ว

ทั้งนี้ แม่ชีนุชนาท พึ่งรัตน์ เปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ว่า บุตรสาวได้เข้าไปทำงานอยู่ที่ประเทศกัมพูชา โดยช่วงแรกถูกชักชวนให้ไปทำงานคาสิโนออนไลน์ แต่เมื่อข้ามฝั่งไปแล้ว ถูกขายต่อไปที่เมืองสีหนุวิวล์ ประเทศกัมพูชา เมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว และได้พยายามร้องขอให้เจ้าหน้าที่และคนไทยช่วยเหลือเนื่องจากทนการกักขังไม่ไหว เมื่อนายทุนคนจีนทราบเรื่องก็ได้ขายตัวคนไทยกลุ่มนี้และบุตรสาวมาที่เมืองปอยเปต ซึ่งปัจจุบันทางนายทุนชาวจีนได้แจ้งกับทางผู้เป็นแม่ว่า ถ้าอยากจะให้ลูกกลับต้องนำเงินมาไถ่ตัวเอง จำนวน 100,000 บาท หากไม่จ่ายจะไม่ปล่อยตัวเด็ดขาด ซึ่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ทำการประสานไปหลายครั้งแต่ปรากฏว่า ทางบริษัทยังไม่ยอมปล่อยตัวจึงเดินทางเข้าร้องต่อศูนย์ประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 เพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งจากการตรวจสอบพิกัดของจุดที่มีการนำคนไทยมากักขังไว้ ให้ทำงานคอลเซ็นเตอร์ผิดกฎหมายนั้น อยู่ที่ตรงข้ามกับโรงเรียนมัธยมศึกษา Poipet High School ใจกลางเมืองปอยเปต ตรงข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว…

ภาพ-ข่าว นายยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว