ที่สถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย  พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบช.ภ.7/ผอ.ศปข.ภ.7, พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์  ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร,พ.ต.อ.เสรีฐกาญจน์  จันทร์ด้วง ผกก.สภ.กระทุ่มแบน, พ.ต.ท.อภิวิทย์  แจ่มแจ้ง รอง  ผกก.ป.สภ.กระทุ่มแบน, พ.ต.ท.วุฒิชัย ทวีกาญจนวัฒน์ รอง ผกก.สส.สภ.กระทุ่มแบน และ พ.ต.ท.ณัฏฐ์ ชูแก้ว สว.(สอบสวน) สภ.กระทุ่มแบน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม กลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถยนต์ประลองความเร็ว บนถนนพุทธสาคร ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของ สภ.กระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ตามที่ปรากฏในคลิปของเพจข่าวดัง “เฮียขับรถ”

 พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า สำหรับการจับกุมแก็งค์รถซิ่งสาย 4 นี้ เป็นการจับกุมแบบยกแก็งค์ที่ใช้ชื่อว่า “NA ดิวะ” มีผู้กระทำความผิดทั้งหมด 11 คน โดยถูกจับกุมแล้ว 10 คน อยู่ระหว่างการติดตามตัวอีก 1 คน พร้อมรถยนต์ของกลาง แต่ในจำนวนนี้มีผู้ต้องหาที่ยอมรับสารภาพ 7 คน ส่วนอีก 3 คน อยู่ระหว่างการสู้คดีในชั้นศาล ซึ่งก็เชื่อได้ว่าท้ายที่สุดแล้วศาลจะดำเนินคดีกับผู้ที่เหลือได้อย่างแน่นอน เพราะด้วยหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอยู่นั้น สามารถนำไปสู่การดำเนินคดีตามกฎหมายและตรวจยึดรถของกลางไว้ได้ทั้งหมด

 พล.ต.ท.ธนายุตม์ฯ กล่าวอีกว่า ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี,รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในเรื่องการป้องกันปราบปรามเกี่ยวกับการแข่งรถในทางสาธารณะ ซึ่งสร้างความเดือนร้อนแก่รถที่สัญจรไปมาและประชาชนที่พักอาศัยในบริเวณดังกล่าวจึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีตามที่มีข้อมูลปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ ที่ได้นำเสนอคลิปการขับขี่รถในลักษณะคล้ายเป็นการแข่งขันรถยนต์ บนถนนถนนพุทธมณฑลสายสี่ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2565 เวลาประมาณ 01.30  น. บริเวณถนนพุทธสาคร กม.5+900 หน้าร้านโชคชัยวัสดุก่อสร้าง ถ.พุทธสาคร อ.กระทุ่มแบนและจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางที่กลุ่มรถยนต์ดังกล่าวใช้แข่งขัน และรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่า กลุ่มวัยรุ่นได้มีการนัดหมายแข่งรถกันทางแอพพลิเคชั่นไลน์ LINE  ชื่อกลุ่ม “NA ดิวะ” มีผู้ทำหน้าที่แอดมินชักชวนบุคคลในกลุ่มให้มาประลองความเร็วและนัดหมายสถานที่ในการแข่งรถยนต์ ทั้งนี้ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจพิสูจน์ทราบพบยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิดและบุคคลที่เกี่ยวข้อง จากนั้นติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี จำนวน 11 คน พร้อมยึดรถของกลาง  และส่งฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลแขวงสมุทรสาคร  โดยผู้ต้องหาที่ 1 ทำหน้าที่เป็นแอดมินกลุ่ม , ผู้ต้องหาที่ 2 ผู้ทำหน้าที่เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่ม ทำหน้าที่แอดมิน และขับขี่รถยนต์เข้าร่วมแข่งขันรถในทาง กับ ให้สัญญาณกระบองไฟ, ผู้ต้องหาที่ 3ทำหน้าที่ใช้กระบองไฟ ให้สัญญาณปล่อยรถแข่งขัน โดยทั้ง 3 คน ถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน“เป็นผู้จัดให้มีการแข่งรถในทางเดินรถโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน,จอดรถกีดขวางจราจร,ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น และชุมนุมการทำกิจกรรมหรือการมั่วสุมกัน ณ สถานที่ใด ๆ หรือการกระทำดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบตามประกาศของจังหวัดสมุทรสาคร”

 ขณะที่ผู้ต้องหาที่ 4 – 10 ขับขี่รถยนต์เข้าร่วมแข่งขันรถในทาง ถูกตั้งข้อกล่าวหา ในความผิดฐาน“ร่วมกันแข่งรถในทาง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงานจราจร,จอดรถกีดขวางจราจร,ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น และชุมนุมการทำกิจกรรมหรือการมั่วสุมกัน ณ สถานที่ใด ๆ หรือการกระทำดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบตามประกาศของจังหวัดสมุทรสาคร” แต่ผู้ต้องหาที่ 8 – 10 ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อยู่ระหว่างการดำเนินคดีในชั้นศาล นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาที่ 11 ผู้ขับขี่รถยนต์เข้าร่วมแข่งขันรถในทาง ยังอยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี 

 สำหรับผู้ต้องหาที่ให้การรับสารภาพทั้งหมดนั้น ถูกศาลแขวงสมุทรสาคร สั่งพิจารณาคดีแล้ว โดยผู้ต้องหาที่ 1กักขัง 1 เดือน 15 วัน,พักใบอนุญาตขับขี่รถยนต์  6 เดือน,ผู้ต้องหาที่ 2-3 กักขัง 1 เดือน 15 วัน,พักใบอนุญาตขับขี่รถยนต์  6 เดือนและริบรถยนต์ของกลาง, ผู้ต้องหาที่ 4-7 กักขัง 1 เดือน 15 วัน,พักใบอนุญาตขับขี่รถยนต์  6 เดือน และ ริบรถยนต์ของกลาง ส่วนผู้ต้องหาที่ 8-10 อยู่ระหว่างดำเนินคดี(เนื่องจากผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ)

 พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ยังกล่าวปิดท้ายด้วยว่า จากกรณีการแข่งรถในทางนี้ ตนก็จะได้มีการสั่งการในภาพรวมของตำรวจภูธรภาค 7 ทั้ง 8 จังหวัด โดยจะสั่งให้ทุกจังหวัดในพื้นที่ความรับผิดชอบของภาค 7 ยกระดับการป้องกัน มีการสืบสวนก่อนเกิดเหตุ มีการเฝ้าระวังในแอดมินเพจต่างๆ และสิ่งสำคัญคือมีการประชาสัมพันธ์ในเชิงรุกให้กับประชาชนและพี่น้องทุกภาคส่วนทราบว่าหากพี่น้องประชาชนพบเห็นกลุ่มบุคคลที่มีการรวมกลุ่มกันหรือมีการนัดแนะกันเพื่อการประลองแข่งรถในทางเช่นนี้ สามารถแจ้งมาได้ที่ สายด่วน 1599 หรือ 191 หรือ สามารถส่งคลิปวิดีโอหลักฐานมาทาง เพจเฟจบุ๊ก  “ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.” ได้ตลอด 24 ชม. โดยจะมีเงินรางวัล 3,000 บาท ให้กับผู้แจ้งในกรณีที่มีการจับกุมได้ ขณะที่ภาคตำรวจเองก็มีแผนปฏิบัติการในการป้องกันการแข่งรถในทางทุกเส้นทาง ทั้งแผน 9 สกัดจับ และแผนเฝ้าระวังเหตุ นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ และการรับเรื่องร้องเรียนจากทุกช่องทางอีกด้วย พร้อมกันนี้ก็จะส่งฝ่ายสืบสวนไปทำการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลโดยละเอียดเพื่อนำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี และเรื่องนี้ถึงแม้ไม่ใช่อาชญากรรมร้ายแรง แต่ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่เป็นนโยบายในการดูแลความสงบสุขและความปลอดภัยทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ ซึ่งถ้าผู้กระทำผิดเป็นเด็กนั้นทางผู้ปกครองจะต้องถูกดำเนินคดีด้วย และจะขอให้ศาลสั่งริบรถทุกรายถือเป็นมาตรการเด็ดขาดสำหรับผู้ที่กระทำความผิด จึงขอฝากถึงน้องๆ เยาวชน และกลุ่มวัยรุ่น รวมถึงผู้ที่กระทำความผิดด้วยการนำรถมาแข่งในทางสาธารณะสร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนนั้น ให้เลิกพฤติกรรมดังกล่าว เพราะนอกจากจะสร้างความเดือดร้อนรำคาญ หรือก่อให้เกิดอันตรายต่อตนเองและผู้อื่นแล้ว ผู้ที่กระทำผิดยังจะต้องได้รับโทษทางกฎหมายและต้องถูกยึดรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์อีกด้วย

ภาพ-ข่าว แมวดำ-ชัช มหาชัย จ.สมุทรสาคร