น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ชาวจ.สมุทรปราการ ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า น้องบี (นามสมมุติ) ลูกสาววัย 7 ขวบ ถูกนายเอก (นามสมมุติ) อายุ 70 ปี ชายข้างบ้านซึ่งเป็นญาติห่างๆ มีศักดิ์เป็นตา ล่อลวงจะพาไปซื้อขนมแต่กลับพาไปที่บ้านล่วงละเมิดทางเพศ โดยการจับถอดกางเกงขึ้นคร่อมและใช้นิ้วกับอวัยวะเพศพยายามสอดใส่ ก่อนจะถ่ายคลิปโพสต์สตอรี่ในเฟซบุ๊ก 

น.ส.เอ กล่าวว่า ตนทำงานอยู่กรุงเทพฯ ส่วนน้องบีอาศัยอยู่กับน้าสาวและยายที่จ.สมุทรปราการ วันที่ 18 พ.ค.65 ตนเห็นนายเอกโพสต์คลิปลงสตอรี่เป็นภาพหน้าท้องเด็กหญิงคนหนึ่งที่กำลังนอนอยู่ จึงสงสัยว่าเด็กในรูปเป็นใครเพราะแถวบ้านก็มีเด็กอยู่ 2 คน ก่อนจะได้แคปรูปแล้วส่งให้น้าสาวช่วยดู โดยน้าสาวได้พยายามถามน้องบีอยู่นานก่อนที่น้องบีจะยืนยันว่าเป็นรูปของตัวเองขณะถูกนายเอกล่อลวงไปที่บ้านและถูกกระทำมาแล้วถึง 3 ครั้ง โดยนายเอกก็จะข่มขู่ไม่ให้บอกใครมิฉะนั้นจะฆ่าให้ตาย

“จากนั้นตนได้พาลูกสาวเข้าแจ้งความที่ สภ.สาขลา ในวันที่ 20 พ.ค.65 ซึ่งตำรวจได้ส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแล้ว และตอนนี้ทางนายเอก ยังไม่ทราบว่าตนได้พาลูกเข้าแจ้งความ จึงขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีให้ด้วย เนื่องจากเกรงว่านายเอกจะไหวตัวหลบหนีไปก่อน”   

หลังรับเรื่องนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.วิชาญวิทย์ เคยการ ผกก.สภ.สาขลา จ.สมุทรปราการ ให้น.ส.เอ พาน้องบี ผู้เสียหายเข้าพบในวันที่ 25 พ.ค.65 และประสาน นางสาวปาณิสรา สลากรธนวัฒน์ หัวหน้าบ้านพักเด็กฯ สมุทรปราการ ร่วมเดินทางไปกับสองแม่ลูกก่อนจะมีการนัดสอบปากคำเด็กโดยทีมสหวิชาชีพ ต่อมาวันที่ 26 พ.ค.65 พนักงานสอบสวน สภ.สาขลา ได้นำตัว นายเอก มาสอบสวนพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา พยายามกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี, อนาจารเด็กอายุไม่เกิด 13 ปี, พรากผู้เยาว์ และพาเด็กอายุไม่เป็น 13 ปี ไปเพื่อการอนาจาร ก่อนจะคุมตัวไปฝากขังศาลในวันที่ 27 พ.ค.

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า ขอขอบคุณ พ.ต.อ.วิชาญวิทย์ เคยการ ผกก.สภ.สาขลา จ.สมุทรปราการ และตำรวจสภ.สาขลา ที่ทำงานอย่างรวดเร็ว และนางสาวปาณิสรา สลากรธนวัฒน์ หัวหน้าบ้านพักเด็กฯ สมุทรปราการ ที่ให้การช่วยเหลือแม่และเด็กผู้เสียหาย ทั้งนี้จากสถิติมูลนิธิปวีณาฯ ปี 2564 กรณีข่มขืน ช่วงอายุที่ถูกข่มขืนมากสุด อันดับ 1.อายุ 10-15 ปี จำนวน 262 ราย คิดเป็น 35.36% อันดับ 2.อายุ 15-20 ปี จำนวน 182 ราย คิดเป็น 24.56 % อันดับ 3.อายุ 5-10 ปี จำนวน 85 ราย คิดเป็น 11.47% ซึ่งเป็นเรื่องน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ขอให้พ่อแม่ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดเพราะอาจตกเป็นเหยื่อได้