ที่บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา อ.เมืองสกลนคร  จ.สกนคร จ่าสิบเอกคำนึง พรหมพิมพ์ นายอำเภอเมืองสกลนคร เป็นประธานเปิดงาน เปิดหนองหารหลวง ย้อนเวลา 6 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงสถานการณ์โควิด – 19 โดยจังหวัดสกลนคร หรืออีกชื่อหนึ่งว่า “เมืองหนองหารหลวง” ได้ถูกกล่าวขานว่าเป็น “เมืองพุทธศาสน์ พระธาตุห้าแห่ง แหล่งอารยธรรมสามพันปี” เป็นเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน นอกเหนืองจากประวัติศาสตร์ ศาสนา และอารยธรรม ที่สำคัญมากอีกประการ คือจังหวัดสกลนครเป็นเมืองรวมคนหลากหลายชาติพันธุ์ ที่มาตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ 18 อำเภอของจังหวัดสกลนคร ทั้งหมด 6 เผ่า ประกอบไปด้วย ไทลาว(ชาวอีสาน) ไทญ้อ ไทโย้ย ไทผู้ไท ไทโส้ ไทกะเลิง รวมทั้งไทยเชื้อสายจีนและเวียดนาม ที่อพยพโยกย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีอัตลักษณ์อันโดดเด่นของตนเองทั้งภาษาพูด อาหารการกิน การแต่งกาย รวมถึงวิถีวัฒนธรรมการดำเนินชีวิตที่หลากหลาย มีความโดดเด่นในภูมิปัญญา ในด้านงานศิลป์ต่างๆโดยเฉพาะงานฝีมือ เช่น การทอผ้า งานดนตรี การแสดงต่างๆซึ่งเป็นเสน่ห์เฉพาะถิ่น มีคุณค่าแก่การสืบสานสิ่งดีๆ เหล่านี้ไว้ให้กับคนรุ่นหลังต่อไป

จ่าสิบเอกคำนึง พรหมพิมพ์ นายอำเภอเมืองสกลนคร กล่าวว่า การส่งเสริมและกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แบบบูรณาการ มีการนำวัฒนธรรมความเป็นไทย ทั้งด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วิถีความเป็นไทย เข้าสู่เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และมีทรัพยากรการท่องเที่ยวที่โดดเด่นและหลากหลายทางไม่ว่าด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม และทรัพยากรธรรมชาติ อันเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้แวะเวียนมาเที่ยวมากมาย “อาทิ “หนองหาร” ทะเลน้ำจืดขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงาม อีกทั้งรอบๆ บริเวณหนองหารยังมีแหล่งโบราณคดีมากมายปรากฏในชุมชนรอบหนองหาร เป็นแหล่งอาหารสำคัญ เป็นแหล่งรวมวัฒนธรรม เป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติ และนิเวศวิทยาทั้งพืชพันธุ์โบราณ สมุนไพร และสัตว์ต่าง ๆ ตามธรรมชาติ

สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมระดับท้องถิ่นให้เข้มแข็ง สร้างจุดเด่น สร้างอัตลักษณ์ให้เป็นที่รู้จักใน ระดับภูมิภาค ระดับชาติ และระดับนานาชาติ โดยได้เชื่อมโยงวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ที่ยังกระจัดกระจายอยู่ให้มีความพร้อม สู่สายตาประชาชนในภูมิภาคอาเซียน และเพื่อเป็นการต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น ทั้งในด้านสินค้าเชิงวัตถุและสินค้าเชิงวัฒนธรรม นำไปสู่การค้าและการลงทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจ และส่งเสริมการท่องเที่ยว เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงสถานการณ์โควิด – 19

ภาพ-ข่าว วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร