ชาวยะลายังคงได้ให้ความสนใจและติดตามกับ “สองแม่ – ลูก” ที่มีพฤติกรรมเปิดวงแชร์ฉ้อโกงประชาชน กลุ่มเงินออมในเฟซบุ๊ก มีชื่อกลุ่มว่า “กลุ่มวงแชร์ เงินออมปันผล บ้านกระทิง” ทำให้มีผู้ได้รับความเสียหาย จำนวนหลายราย ต้องสูญเงินไปเกือบ 30 ล้านบาท เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา จนกระทั่งวันที่ 24 ก.พ.65

ทางศาลจังหวัดยะลา ได้มีคำพิพากษาตัดสินคดีดังกล่าว โดยมี ดร.พรทิพย์ พิมพ์สุรโสภณ เป็นทนายความโจทก์ร่วมในคดีฉ้อโกงประชาชน ได้เปิดแถลงกับสื่อมวลชนว่า ทางศาลจังหวัดยะลาได้อ่านคำพิพากษาในคดีดังกล่าว ซึ่งมีผู้เสียหายหรือโจทก์ จำนวน 38 ราย ส่วนจำเลย คือ น.ส.ทรรศนา  และนางตวงทิพย์ ข้าราชการบำนาญ ในคดีฉ้อโกงประชาชน (แชร์ลูกโซ่ในจังหวัดยะลา) ที่ศาลได้ให้ความยุติธรรมโดยพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองได้กระทำความผิด ให้ลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสอง รวมจำคุกคนละ 114 ปี 152 เดือน และให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายทั้งหมดจำนวนเงินทั้งสิ้น 25,293,300 บาท (ยี่สิบห้าล้านสองแสนเก้าหมื่นสามพันสามร้อยบาท) แก่ผู้เสียหายทั้งหมด 38 ราย

ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และฐานร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90   ทางนำสืบของจำเลยทั้งสอง เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง นับเป็นเหตุบรรเทาโทษ แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว คงให้จำคุกจำเลยทั้งสองมีกำหนดคนละ 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (2) ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนเงินหรือชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวด้วย

ทางด้าน น.ส.ปัญญภัสส์  ผู้เสียหาย 1 ใน 38 ราย เผยถึงความรู้สึก หลังจากศาลได้มีคำตัดสินที่ให้ความเป็นธรรมและขอขอบคุณพนักงานสอบสวน สภ.เมืองยะลา ที่ได้ให้ความสนใจในคดีดังกล่าว ที่สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว และเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย รวมทั้งอัยการด้วยที่ดำเนินการส่งฟ้องได้เร็ว จนสามารถที่จะลงโทษผู้กระทำความผิดได้ 

นอกจากนี้ขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังกับการหลอกลวงที่มาในรูปแบบของแชร์ลูกโซ่หรือหลอกลวงให้มีการลงทุนร่วม ซึ่งปัจจุบันเกิดขึ้นเยอะมากในบ้านเรา จึงขอฝากเตือนอย่าได้หลงเชื่อโดยเด็ดขาด

ภาพ-ข่าว อะหมัด รามันห์สิริวงศ์/ยะลา/