ที่ห้องประชุมชั้น 4 สภ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์  แสงกล้า  รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้เดินทางไปเป็นประธานในการประชุมผู้ประกอบการสถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะในเขตพื้นที่ อ.เมืองศรีสะเกษ มีอยู่จำนวน  40 ร้าน  ซึ่ง พ.ต.อ.ณัฐกิตติ์  เจริญเกษสุวรรณ์ ผกก.สภ.เมือง  ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุรพงศ์  วรพิมพ์รัตน์ รอง ผกก.(ป.) พ.ต.ต.ทนงศักดิ์  ยะสูงเนิน สวป.สภ.เมืองศรีสะเกษและคณะได้จัดประชุมในครั้งนี้ขึ้น โดยมีการบูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครอง อ.เมืองศรีสะเกษ ฝ่ายสาธารณสุขอำเภอเมือง เทศบาลเมืองศรีสะเกษ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ประกอบการ สถานบริการต่าง ๆ  ได้มาร่วมประชุมรับทราบทำความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการการเปิดดำเนินการในรูปแบบร้านอาหารได้ตามมาตรการที่ทางราชการกำหนด  หลังจากที่ทางราชการได้คลายล็อคให้เปิดสถานบริการได้เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นแล้ว โดยมีผู้ประกอบการร้านอาหารที่คล้ายสถานบริการมาร่วมประชุมจำนวนมาก

พ.ต.อ.เทพพิทักษ์  แสงกล้า  รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า หลังจาก ศบค.ได้ มีคำสั่งให้สถานประกอบการขายสุรา ดื่มสุราเปิดได้ไม่เกินเที่ยงคืน เพื่อให้สถานประกอบการร้านค้าต่างๆของ จ.ศรีสะเกษได้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายตามระเบียบ คำสั่งของทาง จ.ศรีสะเกษ และตามนโยบายของทางรัฐบาลจึงได้เชิญผู้ประกอบการร้านค้ามาชี้แจงแนะนำและให้ข้อมูลการปฏิบัติ โดยได้มุ่งเน้นไปที่การห้ามมั่วสุม ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด การพนันรวมทั้งเด็กเยาวชนไม่ให้เข้าไปใช้บริการในสถานบริการรวมทั้งอบายมุขต่างๆ เหนือสิ่งอื่นใดก็คือการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คงต้องใช้อยู่อย่างเข้มงวด คือการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยและสถานประกอบการที่จะเปิดได้จะต้องขออนุญาตต่อคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อของ จ.ศรีสะเกษ

พ.ต.อ.เทพพิทักษ์  แสงกล้า  รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า ตนขอฝากถึงสถานประกอบการทุกแห่งว่า เรื่องเยาวชน การค้ามนุษย์ ยาเสพติด รวมทั้งการกระทำผิดอื่นๆ เป็นสิ่งที่ทางตำรวจมุ่งเน้นและห้ามไม่ให้มีการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างเด็ดขาด  และสิ่งสำคัญก็คือการป้องกันโรคโควิด-19 จะต้องมีการป้องกันการแพร่ระบาดโรคอยู่เช่นเดิม ซึ่งที่ผ่านมาสถานประกอบการทุกแห่งได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ยังไม่มีร้านใดฝ่าฝืนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สถานประกอบการทุกแห่งสามารถเปิดดำเนินการได้แต่จะต้องใช้หลักการง่ายๆว่า ชาวบ้านจะต้องไม่เดือดร้อนและต้องปฏิบัติภายใต้กฎกติกาอย่าทะเลาะเบาะแว้งซึ่งกันและกัน ให้มียามรักษาความปลอดภัยดูแลความสงบเรียบร้อยเพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรมต่างๆร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครองและฝ่ายสาธารณสุข ซึ่งปรากฏว่าได้รับความร่วมมือจากสถานประกอบการทุกแห่งเป็นอย่างดี/

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ