ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดศรีสะเกษ ศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ นายสำรวย เกษกุล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า  จากการที่ได้ติดตามสถานการณ์น้ำและภาวะน้ำท่วมทั้ง 22 อำเภอ ปรากฏว่า ล่าสุด สถานีวัดน้ำ M9 สะพานขาว เขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ปริมาณน้ำในลำห้วยสำราญสูงกว่าตลิ่ง ร่วม 3 เมตร และ มีเเนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก  เนื่องจากมวลน้ำตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา แถบอำเภอ                       ภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ และ อำเภอบัวเชด  อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ไหลรวมเข้ามายังห้วยสำราญอย่างต่อเนื่อง  

นายสำรวย เกษกุล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า ซึ่งจากอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำ และ พายุ”โนรู”  ทำให้จังหวัดศรีสะเกษ ได้รับผลกระทบทั้ง 22 อำเภอ 1 เทศบาลเมือง 16 ชุมชน 121 ตำบล 679 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนกว่า 32,800  ครัวเรือน โดยเฉพาะได้รับผลกระทบด้านที่อยู่อาศัย 15 อำเภอ 45 ตำบล 170 หมู่บ้าน พร้อมทำการอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 6 อำเภอ จำนวน 23 จุด แยกเป็นอำเภอเมืองศรีสะเกษ 17 จุด อำเภอห้วยทับทัน 1 จุด อำเภอยางชุมน้อย 1 จุด, อำเภอวังหิน 1 จุด , อำเภออุทุมพรพิสัย และ อำเภอกันทรารมย์ 2 จุด  แต่ถึงอย่างไรก็ตาม  ก็ยังมีประชาชนที่ยังห่วงทรัพย์สินและบ้านเรือนของตน จึงยังคงอาศัยอยู่ในบ้านตนเอง จำนวน 3,637 ครัวเรือน   

นายสำรวย เกษกุล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ยังกล่าวด้วยว่า ขณะที่พืชผลทางการเกษตรได้รับผลกระทบเป็นนาข้าว 179,713  ไร่ พืชไร่ 12,548  ไร่ และ พืชสวน 350 ไร่ขณะที่ด้านปศุสัตว์ มีเกษตรกรได้รับผลกระทบ 3,832   ราย ใน 9 อำเภอ  สัตว์เลี้ยงได้รับผลกระทบ 27,288  ตัวเป็นโคมากที่สุด 13,635 ตัว และ กระบือ 3,633  ตัว ไก่เนื้ออีก 10,000  ตัว ขณะที่ถนนหนทางอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ