จากภาพมุมสูงที่เห็นอยู่ในขณะนี้ เป็นพื้นที่ทุ่งรับน้ำ บริเวณฝั่งซ้ายของคลองชลประทานชัยนาทป่าสัก โดยก่อนหน้านี้ พื้นที่แห่งนี้ เคยเป็นนาข้าวนับพันไร่ ในอำเภอบ้านหมี่ ซึ่งเกษตรกรได้เก็บเกี่ยวไปก่อนหน้าแล้ว และที่ผู้ชมเห็นมวลน้ำจำนวนมากนี้ เกิดจากฝนที่ตกสะสม ในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าจากภูเขาสูงในพื้นที่ อำเภอสระโบสถ์ และ อำเภอโคกสำโรง ไหลลงมารวมกัน ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ของอำเภอบ้านหมี่ และ อำเภอเมืองลพบุรี เพื่อรอระบายลงสู่ คลองชลประทานชัยนาท-ป่าสัก แต่เนื่องจากขณะนี้ ปริมาณน้ำในคลองชัยนาท-ป่าสัก เอง ซึ่งรับน้ำมาจากเขื่อนเจ้าพระยาฝังตะวันออก มีปริมาณมากเอ่อล้นตลิ่งในบ้างช่วง จนต้องมีการเสริมตลิ่งริมคลองในพื้นที่จุดเสี่ยง ทำให้มวลน้ำที่เห็นอยู่นี้ ไม่สามารถระบายลงสู่คลองชัยนาทป่าสักได้ ส่งผลให้เกินน้ำท่วมขัง เป็นบริเวณกว้าง และระดับน้ำเริ่มยกตัวสูงขึ้น ไกล้เคียงกับระดับน้ำที่เคยท่วม ในปี 2564 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะบริเวณทางหลวงหมายเลข 3024 เส้นทางเชื่อมต่อระหว่าง ต.หนองทรายขาว ตำบลพุคา รถยนต์สัญจรด้วยความจากลำบาก เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ถนนในหมู่บ้าน ถูกน้ำท่วมสูง การเข้าออกหมู่บ้าน ในแต่ละครั้ง ต้องอาศัยรถไถเพื่อการเกษตร หรือเรือเท่านั้น   

 โดย จังหวัดลพบุรี ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ด้านอุทกภัยแล้ว จำนวน 10 อำเภอ จากทั้งหมด 11 อำเภอของจังหวัดลพบุรี  มีผู้ได้รับผลกระทบแล้ว 15,700 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายกว่า 79,400 ไร่ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.บ้านหมี่ ในขณะนี้ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 10 ตำบล 66 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว กว่า 6,300 ครัวเรือน

 ซึ่งแผนการระบายน้ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ในขณะนี้  นายอนุสรณ์ ตันติวุฒิ รองผู้อำนวยการสำนักงานชลปประทานที่ 10 กล่าวว่าสำนักงานชลประทานที่ 10 ได้ทำหนังสือถึงกรมชลประทาน เพื่อขอลดการรับน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาแล้ว

ภาพ-ข่าว สมชาย เกตุฉาย / จ.ลพบุรี รายงาน