นายสราวุธ  ชีวะประเสริฐ   รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำที่บริเวณเขื่อนกั้นแม่น้ำชี เขื่อนยโสธร-พนมไพร ตั้งอยู่เขตบ้านหนองหอย ตำบลเขื่อนคำ อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร ฝั่งตรงข้ามเขตอำเภอพนมไพร จังหวัดยโสธร โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้การต้อนรับกล่าวว่า”ตนพร้อมคณะได้ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาในลุ่มน้ำชีล่างและมูลตอนล่าง จ.อุบลราชธานี และ จ.ยโสธร ว่าพื้นที่ลุ่มน้ำชีล่าง-เซบาย-เซบก และลุ่มน้ำมูลตอนล่างเป็นพื้นที่ประสบกับปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งอยู่ในเกณฑ์สูง สทนช. จึงได้ดำเนินโครงการศึกษาแผนหลักเพื่อบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งในเชิงพื้นที่อย่างเป็นระบบในพื้นที่ 8.94 ล้านไร่ ครอบคลุม 395 ตำบล 50 อำเภอ 5 จังหวัด ได้แก่ จ.ยโสธร ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ ศรีสะเกษและอุบลราชธานี ซึ่งในรอบหลายปีที่ผ่านมาพื้นที่ตลอดสองฝั่งลำน้ำชี ลำน้ำมูล ลำเซบาย ลำเซบกและลำน้ำสาขา ประสบปัญหาอุทกภัยทุกปีเนื่องจากแม่น้ำมีลักษณะแคบ ทำให้เกิดน้ำไหลบ่าล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำชี โดยเฉพาะด้านท้ายน้ำเป็นประจำเกือบทุกปี ส่วนในลำน้ำมูลทางตอนปลายของแม่น้ำมักเกิดน้ำท่วมบ่อยครั้งบริเวณริมฝั่งแม่น้ำมูลในพื้นที่ อ.เมืองอุบลราชธานี และ อ.วารินชำราบ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับอิทธิพลทั้งจากแม่น้ำชี  แม่น้ำมูล ลำเซบาย รวมทั้งลำน้ำสาขาอื่นของแม่น้ำมูล

ดังนั้น จากผลการศึกษาสภาพปัญหาหลักของพื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนล่างและลุ่มน้ำมูลตอนล่าง พบว่า โครงการที่ช่วยบรรเทาปัญหาด้านน้ำในพื้นที่ดังกล่าวได้ ทั้งการพัฒนาแหล่งน้ำตามแผนงานปกติของหน่วยงานและโครงการเสนอเพิ่มเติม ตามแผนที่วางไว้ในระยะ 5 ปี 10 ปี 15 ปี และ 20 ปี ตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ทั้ง 6 ด้าน รวมกว่า 9,300 โครงการ สามารถเก็บกับน้ำเพิ่มได้ 1,400 ล้าน ลบ.ม. มีพื้นที่รับประโยชน์ 5.55 ล้านไร่ โดยพบว่าโครงการที่มีประสิทธิภาพสูงในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในฤดูฝนและเพิ่มศักยภาพแหล่งน้ำต้นทุนในฤดูแล้ง คือ โครงการแนวผันน้ำชี-เซบาย-เซบก-ตุงลุง-แม่น้ำโขง เนื่องจากเป็นโครงการที่มีความสำคัญในลำดับต้น ๆ และสอดคล้อง กับความต้องการของประชาชนในพื้นที่มากที่สุด จะทำให้พื้นที่น้ำท่วมส่วนที่เกินจากผังน้ำ 3.7 แสนไร่ ลดลงอีก 1.9 แสนไร่ โดยผันน้ำส่วนเกินของแม่น้ำชี ที่ระบายผ่านเขื่อนยโสธร-พนมไพรออกก่อนที่จะเข้าไปท่วมตัวเมืองทางด้านล่าง ไปเสริมน้ำต้นทุนให้กับพื้นที่เกษตรกรรมฝั่งขวาใต้คลองผันน้ำที่มักประสบปัญหาภัยแล้งได้ในช่วงฤดูฝน 2.2 ล้านไร่ และ ช่วงฤดูแล้ง 0.22 ล้านไร่

สำหรับแนวผันน้ำชี-เซบาย-เซบก-ตุงลุง-แม่น้ำโขง มีจุดรับน้ำอยู่ด้านเหนือเขื่อนยโสธร ทำการผันน้ำส่วนเกินของแม่น้ำชี ไประบายลงสู่แม่น้ำมูลด้านท้ายเขื่อนปากมูล รวมความยาว 180 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น 3 ช่วง ดังนี้ ช่วงที่ 1 แม่น้ำชี–ลำเซบาย ช่วงที่ 2 ลำเซบาย–ลำเซบก–ห้วยขุหลุ และ ช่วงที่ 3 ห้วยขุหลุ–ห้วยตุงลุง–แม่น้ำมูล อย่างไรก็ตามการดำเนินโครงการ เป็นการผันน้ำข้ามลุ่มน้ำหลัก คือ การผันน้ำจากลุ่มน้ำชีไปยังลุ่มน้ำมูลจึงต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม     หรือ EIA ก่อนพัฒนาโครงการในขั้นตอนต่อไป

ภาพ/เกียรติศักดิ์ ข่าว-ประกาศ ศรีสมบูรณ์ รายงานจากจังหวัดยโสธร