นางสาวธิติสุดา  อุลซาเมอร์ อายุ 62 ปี ได้พา นายศกุลเชษฐ์  เวชกามา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 288 หมู่ 1 บ้านตาดทอง ตำบลตาดทอง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ลูกชายเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อขอความเป็นธรรม หลังจากการที่ นายศกุลเชษฐ์ฯลูกชายของตนได้เข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เพื่อป้องกันโควิด19 แล้วปรากฏว่าสายตาพร่ามัวมองเห็นไม่ชัดเจนจนเป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพและการดำรงชีพในชีวิตประจำวันและภายหลังได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนแล้วก็เคยทำหนังสือร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดยโสธรและทำหนังสือของดการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 และขอพิจารณาให้ช่วยเหลือเยียวยาไปยังโรงพยาบาลยโสธร ซึ่งเป็นสถานที่ในการไปรับการฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดออกมาแสดงความรับผิดชอบหรือออกมาให้ความช่วยเหลือแต่อย่างใด จึงได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเป็นที่พึ่งต่อไป

นายศกุลเชษฐ์  เวชกามา บอกว่า ตนมีอาชีพเป็นช่างภาพ กราฟฟิกและตัดต่อให้กับรายการโทรทัศน์หลายช่องอยู่ในกรุงเทพมหานครแต่พอโควิด19 แพร่ระบาดตนจึงกลับมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านภูมิลำเนาแต่ก็ยังคงยึดอาชีพรับจ้างถ่ายภาพและตัดต่อ ต่อมาเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 ตนได้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด19 เข็มที่ 1 ที่โรงพยาบาลยโสธร เป็นยี่ห้อไฟเซอร์ แต่พอรุ่งเช้าวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ตนรู้สึกว่าสายตาเริ่มพร่ามัวมองเห็นไม่ชัดเจน หลายวันต่อมาจึงได้กลับไปตรวจที่โรงพยาบาลยโสธรอีกครั้งซึ่งแพทย์ก็แจ้งว่ามีเลือดออกที่เยื้อหุ้มตาจึงเป็นสาเหตุให้มองเห็นไม่ชัดเจนและในวันที่ 19 มกราคม 2565 จึงกลับไปรับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ตามนัดของโรงพยาบาลยโสธร หลังจากฉีดเข็มที่ 2 แล้วยิ่งทำให้สายตาพร่ามัวยิ่งขึ้นจนเกือบมองไม่เห็นและขณะนี้ก้มองเห็นวัตถุต่างๆแค่เรือนลางเท่านั้นจนเป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพอาชีพของตนไม่สามารถที่จะดำรงชีวิตประจำวันได้ตามปกติได้

ขณะที่ นางสาวธิติสุดา  อุลซาเมอร์ แม่ของนายศกุลเชษฐ์ฯ บอกว่า อดีตตนเคยเป็นพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ อยู่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี แต่ได้เกษียณอายุราชการแล้ว เนื่องจากลูกชายของตนได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด19 โดยหลังการฉีดวัคซีนแล้วปรากฏว่าสายตาพร่ามัวมองเห็นไม่ชัดเจน ซึ่งปกติลูกชายของตนป่วยเป็นไตวายมาตั้งแต่ปี 2562 และจะต้องเข้ารับการฟอกไตอยู่เป็นประจำแต่ทางโรงพยาบาลยโสธรได้บังคับให้ลูกชายของตนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด19 โดยอ้างว่าถ้าไม่ฉีดวัคซีนจะไม่สามารถเข้ารับการฟอกไตได้ลูกชายของตนจึงยินยอมฉีด พอฉีดเข็มที่ 2 อีกยิ่งทำให้ให้มองเห็นไม่ชัดเจนมากขึ้นและเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมาได้พาลูกชายไปตรวจอีกครั้งที่โรงพยาบาลยโสธรซึ่งแพทย์ระบุว่าเลือดออกในเยื้อหุ้มตาทั้ง 2 ข้าง ระดับการมองเห็นอยู่ในเกณฑ์บอดทั้ง 2 ข้าง จนขณะนี้ไม่สามารถที่จะประกอบอาชีพได้ต้องเป็นภาระให้กับครอบครัวและภรรยาของลูกชายที่ต้องคอยหาเลี้ยง ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็เคยทำหนังสือร้องเรียนผ่านไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดยโสธรเพื่อขอความช่วยเหลือและทำหนังสือของดการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 และขอพิจารณาขอความช่วยเหลือเยียวยาไปยังโรงพยาบาลยโสธรมาแล้วแต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานไหนออกมาแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่จากทางโรงพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกไปสอบถามถึงอาการของลูกชายตนแต่อย่างใด ตนไม่รู้จะไปพึ่งใครจึงได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายของตนด้วย

https://youtu.be/gLw4o-imNVA

ภาพ/เกียรติศักดิ์  ข่าว-ประกาศ ศรีสมบูรณ์ รายงานจากจังหวัดยโสธร