จากความคืบหน้ากรณี เกิดเหตุไฟไหม้บ้านทำให้มีผู้เสียชีวิต  2  ศพ  โดยเหตุเกิดที่บ้านชั้นเดียวแบบก่ออิฐถือปูน  บ้านเลขที่  111  หมู่ที่  5  ต.เขาชัยสน  อ.เขาชัยสน  จ.พัทลุง  ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายตกเขา-เกาะไอ้เถี้ยม ในที่เกิดเหตุ  พบมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านหลังดังกล่าว  2  ศพ  ทราบชื่อภายหลังว่า  นางเชือน  ตั้งวัฒนากุลชัย  อายุ  76  ปี  ผู้เป็นเจ้าของบ้านซึ่งเป็นผู้ป่วย  เดินไม่ค่อยได้  และนางสาววัฒนา  หนูนิล   อายุ   41   ปี   ซึ่งเป็นบุตรสาวของนางเชือน  สภาพศพถูกไฟไหม้เป็นตอตะโก  เบื้องต้นทราบว่า  บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านสภาพเก่า โดยประตูด้านหน้าถูกล๊อคไว้ และใกล้ศาลพระภูมิหลังบ้านพบกระเป๋าสตางค์ แต่ไม่มีเงินหลงเหลือ พบเพียงบัตรประชาชนผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

และหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมหลานชายต้องสงสัย ทราบชื่อ คือนายกฤษดา อายุ 36 ปี  เป็นผู้ป่วยทางจิต เนื่องจากเสพยาจนหลอน  และเคยถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไปก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเนื่องจากขาดยาแล้วทำร้ายร่างกายน้าชาย โดยปกตินายกฤษดา เป็นหลานชายของผู้เสียชีวิต เบื้องต้นจากการสอบสวนนายกฤษดา สอนคง  อายุ 36 ปี  หลานชาย ยอมรับว่าเป็นคลงมือฆ่า จริง  เนื่องจากมีหมอเหลี้ยมมากระชิบข้างหูว่าให้ฆ่า 2 แม่ลูก โดยตอนแรกมาที่บ้านหลังดังกล่าว แล้วไปหยิบกระเป๋าเงินของ  นางเชือน   กำลังหลับที่นอนหนุนอยู่ใต้ศรีษะจำนวน 3 พันบาท แล้วป้ารู้สึกตัว ก่อนใช้มีดทำครัวกระหน่ำแทงป้าบริเวณหน้าท้อง หลายสิบแผล แล้วใช้กริชที่พกติดตัวมา กระหน่ำแทง นางสาววัฒนา ลูกสาว   ก่อนใช้น้ำมันพลายราดจุดไฟเผา แล้วเดินมาปิดล๊อคประตู ก่อนไปนับเงินในกระเป๋าผู้ตายแล้วเดินอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ โดยเหตุการณ์ดังกล่าว หมอเหลี้ยมเป็นคสั่งฆ่า

ขณะที่ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าหมอเหลี้ยมยังจะสั่งฆ่าอีกกี่คน นายกฤษดา ว่า ยังมีอีก 2 แล้วชี้ไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานหญิงพัทลุง 2 คนว่า สองคนนี้ ก่อนทำตาหวานแล้วยิ้มต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำวัตถุพยานที่ยึดได้ในที่เกิดเหตุ  มีมีดทำครัว กริช และไฟเช๊ค มาให้ผู้ก่อเหตุชี้ โดยยอมรับว่า มีดทำครัวใช้แทงป้าที่นอนอยู่บนเตียง ส่วนลูกสาวใช้กริชแทง และไฟแช๊คใช้เผา และเจ้าหน้าที่ยังสอบสวนเพิ่มเติม ส่วนศพผู้เสียชีวิตทั้งสอง เจ้าหน้าที่กำลังส่งพิสูจน์บาดแผลหาร่องรอยการฆ่าอีกครั้ง ยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ สงขลา

ภาพ-ข่าว ไสว รุยันต์ จ.พัทลุง