เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนยิง   นายณรงค์ นิลโชติ อายุ 62 ปี เจ้าของร้านนายหัวคาราโอเกะ เสียชีวิต 1 ราย และ นางวรรณดี จรเสมอ อายุ 51 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.ทะเลน้อย ภ.จว.พัทลุง ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนตกมากถึง 15 ปลอก ตามที่ปรากฏตามข่าวและสื่อโซเชียล นั้น  ล่าสุดเมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 26 กันยายน 65 ที่ผ่านมา

กรณีดังกล่าว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ให้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญในครั้งนี้โดยเร่งด่วน จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ผู้เสียชีวิตมีสาเหตุโกรธเคืองอยู่กับ นางจีระวรรณ หรือเจ๊นก  มูสิกรักษ์ อายุ 47 ปี ซึ่งมีอาชีพปล่อยเงินกู้นอกระบบ โดยสืบทราบว่า ผู้เสียชีวิตได้กู้เงินจาก นางจีระวรรณฯ เป็นเงินรวม 30,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 30 ต่อเดือน แต่นายณรงค์ฯ ผู้เสียชีวิตไม่สามารถชำระค่างวดและดอกเบี้ยได้   อีกทั้งนายณรงค์ฯ และนางวรรณดีฯ ( เป็นพยานปากสำคัญ) ซึ่งกำลังจะขึ้นให้การต่อศาล ในคดีที่บุตรชายของนาง

 พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้สังการให้ พ.ต.อ.ภาคิน ณ.ระนอง รอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรพัทลุง พ.ต.อ.บรรพต เดชมา ผกก.สืบสวน 2 กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 9 พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงค์ ผกก.สืบสวนตำรวจภูธรพัทลุง พ.ต.ต.จำเริญ อินทร์แก้ว หน.ชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้างผู้ร้ายสำคัญ สตช. พ.ต.อ. พงปนต ชูแก้ว ผกก.กองปราบปราม 6 ชุดสืบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนสภ.ทะเลน้อย สืบสวนจังหวัดพัทลุง สืบสวนภาค9 และ ตำรวจ นปพ.พัทลุง ชุด ฉก.เสือดำ กว่า 80 นาย นำหมายศาลจังหวัดพัทลุง ค้น5 จุด ในพื้นที่ ต.พนางตุง ต.นาขยาด อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

เข้าจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย หลังศาลจังหวัดพัทลุง ได้ออกหมายจับ ในคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงนายณรงค์ นิลโชติ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171 หมู่ที่ 2 ต.นางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เสียชีวิต ส่วน นางวันดี จรเสมอ อายุ 51 ปี ผู้เป็นภรรยานายณรงค์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่ร้านนายหัวคาราโอเกะ บ้านเลขที่ 302 หมู่ที่ 6 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ตั้งอยู่ริมถนนสายควนขนุน – ทะเลน้อยเมื่อคืนวันที่ 29 สิงหาคม 65 ที่ผ่านมา

โดยการเข้าค้นบ้านเลขที่ 179 ม.3 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดอาวุธปืนลูกซองพร้อมเครื่องกระสุน สมุดบัญชีรายชื่อเงินกู้นอกระบบ เงินสดกว่า 50,000 บาท ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ 2 คัน รถยนต์เก๋งอีก 1 คัน เพื่อตรวจสอบ พร้อมควบคุมตัว นางจีระวรรณ หรือเจ๊นก มุสิกรักษ์ อายุ 48 ปี เจ้าของบ้าน 1 ใน 4 ที่ศาลอนุมัติหมายจับ และเป็นนายทุนเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ในพื้นที่ ส่วนลูกสาว พร้อมแฟนหนุ่ม ได้ออกจากบ้านก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง ซึ่งต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ ขณะขับรถไปยังรอยต่อจังหวัดพัทลุง – นครศรีธรรมราช ก่อนนำตัวมาสอบสวนจากสาเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่สืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสืบสวนหาผู้ก่อเหตุทั้งหมด จนสามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 4 ราย ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง

ดำเนินคดี ในความผิดฐาน ร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวหรือไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ , ร่วมกันเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นในเวลากลางคืนโดยไม่มีเหตุอันควรโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ , ร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชนจากการสืบสวนเพิ่มเติมทราบว่า นางจีระวรรณฯ ได้จ้างวานให้ นายวิสุทธิ์ ลูกเขยของตนกับพวก ใช้อาวุธปืนไปยิงนายณรงค์ฯ และนางวรรณดีฯ ตามวันเวลาเกิดเหตุ จากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ก่อนที่ต่อมา น.ส.อนุสราฯ ลูกสาวของนางจีระวรรณฯ จะรับตัวนายวิสุทธิ์ฯ กลับมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านของนางจีระวรรณฯ และใช้ชีวิตตามปกติเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย รวมถึงขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ในความผิดเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้โดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หลังพบว่ามีลูกค้าที่กู้ยืมเงินนอกระบบและเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา มากกว่า 200 ราย

 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อสร้างความอุ่นใจในการใช้ชีวิตตามปกติสุขให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีอาชีพปล่อยเงินกู้นอกระบบ และใช้วิธีการข่มขู่ลูกหนี้จนสร้างความหวาดกลัวในพื้นที่เป็นอย่างมาก และยังก่อเหตุฆ่าผู้อื่นได้อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย วันนี้นอกจากจะดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นแล้วนั้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้โดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยจะดำเนินคดีในลักษณะต่างกรรมต่างวาระ เป็นการป้องปรามมิให้ผู้อื่นกระทำผิดในลักษณะเช่นเดียวกันนี้อีก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวพัทลุงกลับคืนมาให้ได้โดยเร็ว

ภาพ-ข่าว ไสว รุยันต์ จ.พัทลุง