นายแพทย์สุรัตน์ ตันติทวีวรกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกระบี เปิดเผยว่าจากกรณี โรงพยาบาลกระบี่ รับผู้ป่วยเด็กเพศชายอายุ 2 เดือนเศษ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 ด้วยอาการผื่นคัน ผิวหนังบริเวณขาหนีบ จนอาการดีขึ้นทางโรงพยาบาลจึงให้ผู้ป่วยกลับบ้าน และนัดผุ้ป่วยเพื่อติดตามอาการ ในวันที่ 14 ธันวาคม 2565 อีกครั้งต่อมาวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ผู้ป่วยมาติดตามอาการตามที่แพทย์นัด ซึ่งแพทย์พบว่าผู้ป่วย มีอาการอิดโรย อ่อนเพลีย จากการซักถามมารดาพบว่า ผู้ป่วย ถ่ายเหลวติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ครั้ง ก่อนมาพบแพทย์ตามนัดในวันดังกล่าว ทางโรงพยาบาลจึงรับผู้ป่วยรักษาไว้ในโรงพยาบาล เพื่อรักษาตามอาการ ต่อมาทางโรงพยาบาลได้ให้การดูแลผู้ป่วยเด็กในห้องแยก (NICU) เพื่อที่จะให้การดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด โดยผู้ป่วยไม่ได้อยู่ในอาการวิกฤติ รู้สึกตัวดี โดยแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ ในการดูแลผู้ป่วยอาการหนัก เช่น การให้ออกซิเจน การใสท่อสวนปัสสาวะ เป็นต้น ทั้งนี้ผู้ป่วยไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤติแต่อย่างใด  หากแต่แพทย์ต้องการดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดเท่านั้น ล่าสุดอาการผู้ป่วยดีขึ้นตามลำดับ ทางแพทย์เตรียมให้ผู้ป่วยรับประทานอาหาร (นม) ตามปกติได้ใน

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกระบี่ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กรณีที่ผู้ป่วยได้ทานยาคาลาไมน์ ที่ปรากฏในข่าว ทางศูนย์พิษวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ข้อมูลว่าปริมาณยาคาลาไมน์ที่ผู้ป่วยได้รับดังปรากฎในข่าวนั้น ไม่ได้ส่งผลเสียต่อร่างกายถึงขั้นทำให้ผู้ป่วยอยู่ในภาวะวิฤกติ ถึงแม้ผู้ป่วยจะเป็นเด็กก็ตาม

อย่างไรก็ตาม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ จะนำเรื่องเข้าพิจารณากรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข (มาตรา 41) เพื่อเยียวยาผู้ป่วยตามข้อเท็จจริงต่อไป อย่างไรก็ตาม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ จะกำกับหน่วยบริการในการให้บริการประชาชาชนให้เป็นไปตามมาตรฐานอย่างเข้มงวด

ภาพ-ข่าว ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง จ.กระบี่ รายงาน