ที่วัดสว่างอารมณ์ (แคแถว) ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม นายปฐมพงศ์ สูญจันทร์ ส.ส.นครปฐม เขต4 พร้อมด้วย พ.ท.ดร.สินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.นครปฐม เขต1 ร่วมเป็นประธานในพิธีมอบกรรมสิทธิ์และไถ่ชีวิตโค-กระบือ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพระพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 โดยมีนายสมควร ปิยะพงศ์เดชา ปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม เป็นผู้กล่าวรายงาน ซึ่งมีพระครูยติธรรมานุยุต หรือ “หลวงพ่อแป๊ะ” ธัมมทินโน เจ้าอาวาส วัดสว่างอารมณ์ (วัดแคแถว) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ร่วมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนเข้าร่วมในพิธีโดยพร้อมเพรียง

นายสมควร ปิยะพงศ์เดชา ปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า โครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ เป็นโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่กรมปศุสัตว์ได้รับพระราชทานให้ดำเนินการมาตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2522 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้มีโค-กระบือ ไว้ใช้แรงงาน และเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้สนองพระราชดำริดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดมา ปัจจุบันโครงการธนาคารโค-กระบือ ยังเป็นนโยบายหนึ่งของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกร โดยการมีตั้งกลุ่มของเกษตรกร ให้กลุ่มเกษตรกร มีความเข้มแข็ง เพิ่มประสิทธิภาพการติดตามผลผลิตโครงการ และการคัดเลือกเกษตรกรรายใหม่เข้าร่วมโครงการ ตลอดจนเน้นให้มีการต่อยอดการใช้ประโยชน์จากโครงการ เช่น การใช้ประโยชน์จากมูลโคและแก๊สชีวภาพ หรือใช้เป็นปุ๋ยคอก การใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเป็นอาหารสัตว์ สนับสนุนการให้แรงงานจากสัตว์ เสริมสร้างการฟื้นฟูและอนุรักษ์ประเพณีและภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีอย่างยาวนาน

สำหรับโคที่มอบให้เกษตรกรในวันนี้ ได้รับจากผู้มีจิตศรัทธาบริจาคมอบผ่านทางเจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์พระครูยติธรรมานุยุต (หลวงพ่อแป๊ะ) มอบให้กับโครงการฯ รวม 5 ตัว และได้รับจากผู้มีจิตศรัทธามอบการผ่านกรมปศุสัตว์จำนวน 6 ตัว เกษตรกรจะต้องทำสัญญายืมเพื่อการผลิตตามระเบียบของธนาคารโค-กระบือ โดยมีเงื่อนไขว่าเมื่อลูกโคหรือลูกกระบือตัวแรกมีอายุครบ 18 เดือน ให้ส่งลูกโคหรือลูกกระบือ นั้นคืนโครงการธนาคารโค-กระบือ และเมื่อสัญญาครบ 5 ปีแล้วจะยกแม่โค-กระบือ พร้อมลูกโค-กระบือ ตัวถัดไปให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเกษตรกรผู้ยืม แต่ถ้าเกษตรกรยืมโค-กระบือ ไปแล้ว3 ปี ไม่มีลูกเกิด หากตรวจสอบแล้วว่ามีเกษตรกรผู้ยืมไม่เอาใจใส่ดูแล ธนาคารโค-กระบือ จะรับแม่โค-กระบือ ดังกล่าวคืน และนำไปให้ความช่วยเหลือเกษตรกรรายใหม่ แต่หากพบผู้ความบกพร่องที่สัตว์ ธนาคารโค-กระบือ จะนำสัตว์ตัวใหม่ มาเปลี่ยนให้เกษตรกร สำหรับลูกโค-กระบือ ตัวแรกที่ธนาคารโค-กระบือ รับคืนมา จะนำไปให้ความช่วยเหลือเกษตรกรรายใหม่ในชุมชนนั้นๆ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของโครงการต่อไป

นายปฐมพงศ์ สูญจันทร์ ส.ส.นครปฐม เขต4 กล่าวว่า สำหรับโครงการมอบกรรมสิทธิ์และไถ่ชีวิตโค-กระบือเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90พรรษา 12 สิงหาคม 2565 โดยเสด็จพระราชกุศลเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้มี โค-กระบือไว้ใช้แรงงานและเพิ่มผลผลิต อันก่อให้เกิดประโยชน์แก่เกษตรกร และประเทศชาติ โดยเฉพาะในภาวะที่ประเทศกำลังเกิดวิกฤติขาดแคลนโค-กระบืออยู่ ณ ขณะนี้ และจากสภาวะการปัจจุบันที่ปุ๋ยเคมี มีราคาแพง ขาดแรงงาน และมูลสัตว์ที่ได้จากโค-กระบือ สามารถนำมาจำหน่ายเพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร เป็นการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรที่ตรงจุด ไม่เป็นการสร้างภาระหนี้สินให้เกษตรกร สอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นที่น่ายินดีที่จังหวัดนครปฐม วัดสว่างอารมณ์ ร่วมกับกรมปศุสัตว์และทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชนและภาคประชาชน จัดโครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือ เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคล เพื่อถวายเป็นราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผมมีความมั่นใจว่าประชาชนชาวไทย และผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ที่ได้บริจาคโค-กระบือ หรือบริจาคเงิน เพื่อไถ่ชีวิตโค-กระบือ ในครั้งนี้จะได้รับกุศลผลบุญ และมีความอิ่มเอิบใจที่เกิดจากเจตนาอันบริสุทธิ์ที่ได้กระทำในวันนี้อย่างแน่นอน

โดยในพิพิธีการ นายปฐมพงศ์ สูญจันทร์ ส.ส.นครปฐม เขต 4 และพ.ท.ดร.สินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.นครปฐม เขต1 ได้ลนามถวายพระพร และร่วมรับฟังตัวแทนเกษตรร่วมถวายคำปฏิญาณต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ก่อนที่จะร่วมกันคล้องมาลัย ป้อนหญ้าเละพรมน้ำอบให้กับโค-กระบือ ที่ได้รับการไถ่ชีวิตและเข้าสู่โครงกสรเพื่อความเป็นสิริมงคล

ภาพ-ข่าว THAIREFERENCE จ.นครปฐม