ที่มูลนิธิสว่างเมตตาธรรมสถาน นครราชสีมา จัดการประชุมเพื่อกำหนดแนวทางจัดระเบียบรถติดสัญญาณไซเรนและไฟวับวาบ ในกับอาสาฯ จัดระเบียบการใช้สัญญาณไฟวับวาบและเสียงสัญญาณไซเรนรถฉุกเฉินที่ใช้ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา

นายอภิภวัส ตั้งนันทนาการ ประธานมูลนิธิสว่างเมตตาธรรมสถาน นครราชสีมา กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้หารือถึงรายละเอียดในการใช้รถติดสัญญาณไซเรน พร้อมกำหนดรูปแบบ ลักษณะรถที่จะสามารถขออนุญาตติดไซเรนตามที่หน่วยการแพทย์ฉุกเฉินกำหนด ซึ่งได้โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือรถระดับแอดวานซ์(รถพยาบาล) โดยจะรถเป็นรถตู้หรือรถกระบะที่มีหลังคาสูง รถระดับเบสิคหรือรถเฉพาะกิจ จะอนุญาตให้ใช้รถตู้หรือรถกระบะ โดยรถกระบะจะต้องสามารถเปิดท้ายได้ และมีที่กั้นระหว่างคนขับรวมทั้งจะต้องมีอุปกรณ์ช่วยเหลือชีวิตเบื้องต้น

 ส่วนรถเคลื่อนที่เร็วหรือรถมอเตอร์ไซค์ จะต้องมีอุปกรณ์ช่วยเหลือเบื้องต้น ซึ่งเอกสารระเบียบรถจะนำขึ้นทางสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 โดยรถที่ขึ้นทะเบียนแล้วจะต้องใช้สัญญาณไฟสีแดง-น้ำเงินเท่านั้น ส่วนรถที่ยังไม่ได้ทำการขึ้นทะเบียน มูลนิธิจะต้องยื่นเอกสารต่อทางสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 และนำรถเข้าตรวจสอบสภาพรถซึ่งในการขึ้นทะเบียนแต่ละครั้งจะมีอายุการใช้งาน 1 ปี  ในส่วนของรถตัดถ่างในกฎหมายกำหนดว่าให้ใช้ไฟสีเหลืองเท่านั้นและต้องจดทะเบียนภายใต้ชื่อหน่วยงานนิติบุคคล ดังนั้นจะต้องมีการพิจารณาให้สามารถใช้ไฟสีแดง-น้ำเงิน หรือสีแดง ได้ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาและศึกษาข้อกฎหมายเพิ่มเติม

ด้านเจ้าหน้าที่อาสาที่จะเข้ามาทำงานช่วยเหลือสังคม ทางมูลนิธิสว่างเมตตาฯ และทางโรงพยาบาลมหาราช จะจัดอบรมบุคคลที่จะเข้ามาทำงาน โดยมูลนิธิต่างๆจะต้องส่งคนเข้ามา โดยต้องคัดเลือกบุคคลที่มีความประพฤติดี ไม่มีคดีติดตัว และจะได้รับบัตรแสดงตนอย่างชัดเจน ภายหลังจากผ่านการอบรม สำหรับการใช้วิทยุสื่อสารก็จะต้องดำเนินการขออนุญาตให้ถูกต้องในขั้นตอนต่อไป.

ภาพ-ข่าว / อภิรักษ์ ศรีอัศวิน ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดนครราชสีมา