จากอุบัติเหตุรถเก๋งเสียหลักพลิกคว่ำ บนถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ฝั่งขาเข้าพัทยา ช่วง กม.105+700 โดยได้มีการประสานเก็บกู้ซากรถออกจากบริเวณที่เกิดเหตุ แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบร่างผู้เสียชีวิต เป็นชาย ชาว จ.ระยอง อายุ 68 ปี ติดอยู่ในซากรถคันดังกล่าว โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งอุบัติเหตุดังกล่าวถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่กันอย่างหนักนั้น

ทางด้าน นายสุวิวัฒน์ พรหมมา (ทล.13) หัวหน้าหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะประธานกู้ภัยตำรวจทางหลวงแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ในนามกู้ภัยตำรวจทางหลวงแห่งประเทศไทย ขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียของครอบครัวผู้เสียชีวิต  ซึ่งในกรณีดังกล่าว พบว่า มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่าเป็นหน่วยงานเดียวกันหรือไม่ ทำให้มีประชาชนและหน่วยงานข้างเคียง สอบถามเข้ามาจำนวนมาก เนื่องจากเกิดความไม่เชื่อมั่นในการทำงาน

โดยในเบื้องต้นขอชี้แจงว่า เป็นคนละหน่วยงานกัน ซึ่งเคสดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางหลวง ในสังกัดของ กรมทางหลวง หรือที่หลายคนอาจจะเรียกว่า กู้ภัยมอเตอร์เวย์  โดยชื่อดังกล่าวมีความใกล้เคียงกับ หน่วยงานกู้ภัยที่ตนรับผิดชอบอยู่ คือ กู้ภัยตำรวจทางหลวงแห่งประเทศไทย ซึ่งตั้งมานาน 20ปี มีหน่วยงานกระจายอยู่ 16 จังหวัดในทุกภาคของประเทศไทย ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยอยู่ในการดูแลรับผิดชอบของ ตำรวจทางหลวง อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่ทำงานด้านกู้ภัยมานาน ส่วนตัวไม่อยากให้เกิดเคสดังกล่าวขึ้น และไม่ว่าจะหน่วยกู้ภัยใด เชื่อว่าต่างไม่อยากให้มีผู้เสียชีวิต ในเคสอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่ออกช่วยเหลืออย่างแน่นอน โดยล่าสุดทราบว่า กรมทางหลวงได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อตรวจสอบในรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้ให้ตำรวจทางหลวงเข้าร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้สังคมทราบต่อไป