ศูนย์ผดุงธรรมโดย นายธีรวงศ์ สรรค์พิพัฒน์ ผู้อำนวยการฯ ได้รับแจ้งจากจากแหล่งข่าวว่า ธนาคารออมสินได้ทำสัญญาซื้อหมึกพิมพ์จากบริษัทเอกชนหลายรายรวมมูลค่าหลายร้อยล้านบาท โดยมีผู้ชนะการประกวดราคาหลายรายด้วยกันทั้งหมดรวม 4 ยี่ห้อดัง เมื่อเอกชนทุกรายได้เข้าทำสัญญาขายหมึกพิมพ์ให้กับธนาคารฯ กลับมีการสั่งหมึกพิมพ์เต็มตามสัญญาแต่เพียงรายเดียว รวมมูลค่าถึง 53,469,000 บาท ขณะที่ยี่ห้ออื่นกลับไม่สั่งให้ซื้อสินค้าเต็มตามสัญญาทั้งธนาคารฯ ยังใช้สิทธิ์บอกเลิกสัญญาไม่สั่งหมึกพิมพ์จากรายอื่น ทั้งที่ยังไม่ครบกำหนดระยะเวลาตามสัญญา ซึ่งนำไปสู่การตั้งข้อสังเกตุได้ว่าอาจเป็นการเอื้อเอกชนรายใดรายหนึ่งหรือไม่ เป็นเหตุให้ผู้ขายรายอื่นไม่สามารถขายสินค้าได้เต็มจำนวนตามสัญญาและอาจทำให้เกิดความเสียหายในแบกรับต้นทุนเกินความจำเป็น เช่น การสต๊อกสินค้า  ค่าเช่าโกดัง ค่าค้ำประกันสัญญา ฯลฯ

ผู้ขายรายดังกล่าวจึงเข้าร้องเรียนเพื่อให้ตรวจสอบถึงความถูกต้อง และเหมาะสมในคำสั่งดังกล่าว โดยผู้อำนวยการศูนย์ผดุงธรรมเชื่อว่าธนาคารออมสินย่อมมีเหตุผลในการพิจารณาจึงขอให้ธนาคารออมสินแสวงหาข้อเท็จจริงเชิงลึกเพื่อให้ได้ข้อยุติ ให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายด้วยความสุจริตโดยไม่เลือกปฏิบัติ เป็นการลดข้อพิพาทที่อาจถูกนำเรื่องเข้าสู่องค์กรอิสระได้ในอนาคต ทั้งนี้ทางศูนย์ฯ แสดงความมั่นใจว่าธนาคารออมสินโดยนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เป็นผู้ที่มีความสามารถ โปร่งใสและน่าชื่นชม จะไม่มีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างแน่นอนเพราะมีจุดมุ่งหมายในการยืนหยัดเพื่อสังคมในสร้างโอกาสให้ประชาชนทั้งเรื่องเงินทุน และการลดดอกเบี้ย ดังปรากฏในการได้รับรางวัลชนะเลิศที่ผ่านมา Asia Responsible Enterprise Awards 2022 หรือ AREA 2022 ในสาขา Social Empowerment จาก Enterprise Asia  ในฐานะองค์กรภูมิภาคเอเชียที่สนับสนุนการเสริมสร้างพลังทางสังคม