พล.ต.ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผบ.กองกำลังผาเมือง น.อ.จิรัฐฏ์ ผูกทอง ผบ.นรข.เขตเชียงราย พ.อ.ชาตินักรบ พรศิริรัตน์ ผบ.ฉก.ทพ.31 ได้ร่วมกันตรวจสอบ ยาบ้าจำนวน 27 กระสอบ , เฮโรอีนจำนวน 6 กระสอบ และไอซ์จำนวน 6 กระสอบ ที่ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตเชียงราย อ.เชียงแสน จเชียงราย หลังจากเมื่อคืนวันที่ 28 ส.ค.65 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมากเข้ามายังชายแดนประเทศไทยโดยข้ามแม่น้ำโขง ในพื้นที่ ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
น.อ.จิรัฐฏ์ ผูกทอง ผบ.นรข.เขตเชียงรายจึงได้สั่งการให้ น.อ.พิชัยยุทธ ปาจะกัง หัวหน้าฝ่ายยุทธการและการข่าว นรข.เขตเชียงราย รักษาราชการ.สน.เรือเชียงแสน จัดกำลังพลชุด นรข.เขตเชียงราย และ สน.เรือเชียงแสน นำโดย ร.ท.สัญญา จันจี ผู้ควบคุมเรือตรวจการณ์ ตามลำน้ำ นรข.เขต เขียงราย เป็น หัวหน้าชุดในการ ลาดตระเวน และ ตรวตยึดวางแผนเข้าทำการเฝ้าตรวจพื้นที่ตามที่ได้รับรายงาน จนเวลาประมาณ 21.30 น. ชุดเฝ้าตรวจได้ใช้กล้องส่องเวลากลางคืนตรวจพบเรือกาบขนาดใหญ่ลักษณะบรรทุกสิ่งของมีน้ำหนักจำนวน 1 ลำแล่นข้ามมาจากฝั่ง สปป.ลาว มีคนโดยสารมาในเรือจำนวน 3 คนเข้ามาเทียบริมตลิ่งแม่น้ำโขง ทั้ง 3 คนช่วยกันยกสิ่งของในเรือขึ้นจากเรือไว้บนฝั่ง และมีคนอีก 2 คนอยู่ที่ริมตลิ่งช่วยกันยกสิ่งของคล้ายกระสอบขึ้นมาวางบนริมตลิ่ง
เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อเข้าทำการตรวจสอบ แต่บุคคลทั้ง 2 คนได้อาศัยความชำนาญพื้นที่วิ่งหลบหนีไปในควมมืด ส่วน เรือกาบลำดังกล่าวพร้อมคนในเรือทั้ง 3 คนก็ได้ติดเครื่องยนต์และแล่นกลับไปยังฝั่ง สปป.ลาวอย่างรวดเร็ว จากการตรวจสอบสิ่งของที่ถูกวางทิ้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงและตรวจดูภายในพบว่าเป็ยยาเสพติดชนิดยาบ้าจำนวน 27 กระสอบประมาณ 5.34 ล้านเม็ด เฮโรอีนจำนวน 6 กระสอบนำหนักประมาณ 38.3 กิโ,กรัม และไอซ์จำนวน 6 กระสอบ ประมาณ 150 กิโลกรัม
พล.ต.ศุภฤกษ์ สถาพรผล กล่าวว่า นรข.และทหารพราน เป็นหน่วยสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน หากหลุดเข้าไปชายแดนด้านในก็จะเป็นความรับผิดชอบของตำรวจ บช.ปส. หรือ ป.ป.ส. ซึ่งตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ได้มีนโยบายให้สกัดกั้นยาเสพติดไว้ที่แนวชายแดน ไม่ให้เข้าไปยังชั้นในของประเทศ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบได้ทำงานกันทุกวัน ทั้งกลางวันและกลางคืน ขอให้ประชาชน ได้เข้าใจในการทำงานและเป็นหูเป็นตาให้กับทางเจ้าหน้าที่ ขบวนการค้ายาเสพติดเองถ้าหากการลำเลียงเข้ามาถูกสกัดกั้นได้ก็ไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยง หากถูกจับกุมได้ แต่ถ้ายาเสพติดหลุดเข้าไปยั้งชั้นนของประเทศก็อาจจะมีเยาวชนตกเป็นเหยื่อของยาเสพติดได้
“ยาเสพติดในล็อตนี้มาเฮโลอีนมาด้วยจำนวนมาก ซึ่งกลุ่มคนที่ใช้เฮโลอีน ส่วนใหญ่ไม่ได้มีมากนักในประเทศไทย คาดว่าจะต้องส่งต่อไปยังประเทศที่ 3 ซึ่งจะต้องติดตามสอบสวนหาข้อมูลกันต่อไป อย่างไรก็ตามการลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าทำงานตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดทะลักเข้าไปยังชั้นในของประเทศไทยได้” ผบ.กองกำลังผาเมือง กล่าว
ภาพ-ข่าว ณัฐวัตร ลาพิงค์/เชียงราย