ที่ผ่านมา นางจิรา อายุ 53 ปี   เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง ว่าเสียรู้ถูกหลอกเงินเกือบ 700,000 บาท ไปแล้วไม่เอาเงินมาคืน นางจิรา  (ผู้เสียหาย) กล่าวว่า เมือ 6 เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ตนเปิดร้านขายข้าวแกง ซื่อร้านล่องใต้ ที่ตลาดเมืองใหม่สมบัติบุรี ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง  จ.นนทบุรี ได้มี ผู้หญิง 1 คน ซื่อ สา อายุ 54 ปี ได้เข้ามานั่งกินข้าวที่ร้านของตน ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อนได้พูดคุยกัน ซึ่งหญิงคนดังกล่าวก็ได้มานั่งกินข้าวในร้านอยู่หลายครั้ง ต่อมา นางสา (คู่กรณี) ซึ่งนางสา ได้บอกกับตนว่า เป็นนายหน้าขายที่จำนวนเงิน 1000 กว่าล้านบาท เนื้อที่ 500 กว่าไร่ และได้ขอยืมเงินตนไปเดินเรื่อง ซึ่งนางสา ได้บอกกับตนว่า ถ้าขายได้จะได้ค่านายหน้า 3% และจะแบ่งกับตนคนละครึ่ง และนางสา ได้อ้างถึงคนใหญ่คนโตคุณหญิงคุณเพื่อให้ตนหลงเชื่อ

ซึ่งตนก็พอมีเงินอยู่บ้างตนก็ให้กับนางสาไป เป็นเงินสด จำนวนหนึ่ง ต่อมานางสา ก็ได้โทรมาหาตนบอกว่าจะเอาเงินไปเดินเรื่องที่ดินอีกตนก็ให้ไปหลายครั้งจนเงินสดของตนหมด และตนก็ได้ไปยื้มเงินเพื่อนมาให้กับนาง สา อีก 2.5 แสนบาท แต่ก็ยังไม่พอตนก็ไปยื่มเงินเพื่อนอีกคนมาอีก 50,000 บาท แต่ นางสา ก็ยังไม่พอบอกขายที่ยังไม่ได้ซึ่งตนก็อยากได้เงินที่นางสายื่มไปกับคืนมา ในช่วงนั้นตนคิดว่าอยากได้เงินคืนอย่างเดียว เงินที่นางสาเอาไปเพื่อที่จะเดินเรื่องขายที่ให้จบจะได้เงินคืน แต่ก็ไม่คืนชักที และนางสาก็ได้มายื้มเงินกับตนอยู่เลื่อยตนไม่มีเงินสดที่จะให้ ไหนจะค่าชื้อของสดมาทำอาหารขายในแต่ละวันไหนจะค่าเช่าร้านค่าลูกน้องค่าน้ำค่าไฟในแต่ละเดือน ในเมื่อตนไม่มีเงินสดให้ตนก็เลยเอาของจำพวกสร้อยคอทองคำแหวนทอง แหวนเพชรที่ตนชื้อเก็บสะสมมาเกือบทั้งชีวิต รวมแล้ว 43 รายการ ได้ให้นางสาเอาไปจำนำ เพื่อที่จะเอาเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายเดินเรื่องขายที่     

ล่าสุด นาง สา  อายุ 54 ปี คู่กรณีได้เดินทางเขาพบ ร.ต.ท วชีรพันธ์    เจริญวัย พนักงานสอบสวน เพื่อแสดงความยริสุดใจ แต่ไม่เจอพนักงานสอบสวนซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้โทรคุยทางโทรศัพท์จึงได้นัดสอบปากคำในวันหลังแต่ยังไม่ระบุวัน       นางสา  กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางเข้ามา สภ.บางบัวทองเพื่อแสดงตัวตนว่าตัวเองไม่ได้ฉ้อโกง มายื่นยังว่าตนไม่ได้ทำมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ตนนั้นมาโดยไม่มีเอกสารเลยไม่ได้เตรียม ก่อนที่จะเข้ามาที่ สภ.บางบัวทองตนได้โทรหา ตร.แล้ว แต่ ตร.บอกว่ายังไม่ได้เค้ายังไม่ได้เรียกตัวตน บอกให้ตนอยู่เฉยๆ แต่ตนอยู่เฉยไม่ได้เพราะตนมีธุระกิจ เกิดข่าวออกมาเสียๆหายๆ แล้วมีคนจำตนได้ธุระกิจตนจะเป็นยังไง จะรับผิดชอบได้ไหม ถ้ารับผิดชอบไม่ได้ตนก็ไม่ยอมเหมือนกัน

ตนกับผู้เสียหายก็มีการติดต่อกันตลอด เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาก็ยังเจอกันตนได้เข้าไปหาผู้เสียหายที่ร้าน แต่ผู้เสียหายก็ไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ผู้เสียหายเล่าให้ตนฟังว่าลูกสาวเอาของไปไว้ก็เยอะ เอาเก็บไว้ไม่ได้ตอนที่ให้ของเอาไปจำนำผู้เสียหายก็ไปด้วยแต่ผู้เสียหายนั่งรออยู่บนรถแล้วให้ตนเอาของไปจำนำ พอจำนำเสร็จก็เอาตั๋วจำนำให้ผู้เสียหายเพราะกลัวโดนโกง ถ้าตนคิดจะโกงตนคงไม่เอาตั๋วจำนำให้เงินที่จำนำก็อยู่ที่ผู้เสียหาย เราก็ไม่คิดว่าผู้เสียหายจะเทตน หลังจากนี้ตนก็จะไม่คุย ถ้าไม่เป็นความจริงตนก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต จ.นนทบุรี