ที่สภ.บางบัวทอง  ทนายปิยณัฐ สุกยัง เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยนางอำนวย เพ็งเพชร (น้า)ของน้องเจ้าขาและน้องพีพี เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมเป็นพยานในคดี กรณีน้องเจ้าขาถูกทำร้ายสาหัส พร้อมทั้งติดตามความคืบหน้าของคดีน้องพีพีและน้องเจ้าขาจากทางพนักงานสอบสวน ว่ามีความคืบหน้าไปถึงไหน

ทนายปิยณัฐ กล่าวว่า วันนี้ตนนำน้าของน้องทั้งสองในฐานะพยานแวดล้อมมาพบพนักงานสอบสวนตามที่ตำรวจต้องการในฐานะพยานแวดล้อม เราก็พามให้ส่วนคดีนั้นอยากบอกว่าคนที่เห็นเหตุการณ์ก็มีแค่แม่กับพ่อเลี้ยงเท่านั้นคนอื่นไม่เห็นหรอกเป็นแค่พฤติการณ์แวดล้อมเท่านั้น เป็นพยานบอกเล่า หรือได้ยินมาบางส่วน  ทางน้าเองเป็นคนที่ได้ยินเรื่องราวมาทางโทรศัพท์และมีกาจพูดคุยกับทางผู้เป็นแม่โดยตรงวันนี้ตำรวจต้องการสอบพยานเราก็พามาให้แต่เราขอได้ไหมว่าคุณทำสำนวนไปถึง ขั้นตอนไหน ให้ทางญาติได้สบายใจว่าตำรวจได้สอบไปแล้วทำไว้แล้วไม่ใช่คดีนี้แจ้งข้อหาหนักไปแล้วพอถึงศาลสอบไม่ละเอียดคดีหลุดในศาลแบบนี้เราไม่เอาเราไม่ต้องการให้เกิดภาพแบบนั้น

สภ.บางบัวทองให้เราได้ไหมถ้าไม่ได้เราก็ต้องขยับมากขึ้นต้อง ทางเราขอดูตัวเวชระเบียนอย่างชัดเจนที่ทางตำรวจได้มาเราพยายามขอโรงพยาบาลแล้วแต่โรงพยาบาลยังไม่ออกมาให้ต้องดูในส่วนของสำนวนว่ามีร่องรอยอะไรไหมในคดีนี้ถ้าไม่มีก็คือไม่มีเราต้องอาศัยพยานแวดล้อมต่างๆเข้ามาในคดี เพราะจะสามารถเอาผิดกับแม่และพ่อเลี้ยงได้ ที่คุยกับย่าและพ่อก็มีความหวั่นใจผมเข้าใจว่าเป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวนที่ไม่ให้ดูสำนวนแต่คดีหลายๆคดีที่ตนทำมาเป็นร้อยๆคดีปกติทางผู้เสียหายขอดูได้ทั้งหมดน้อยมากที่จะใช้ดุลพินิจไม่ให้ดูก็เข้าใจพนักงานสอบสวนว่าเขามีดุลพินิจไม่ให้ทางเรา ดูได้ แต่ก็มีข้อสงสัยจากทางย่าทางพ่อว่าการที่คุณตั้งข้อหาไม่ว่าจะเป็นข้อหาทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตของน้องพีพีหรือแม้แต่การที่จะแจ้งข้อหาใหม่ของน้องเจ้าขา ตำรวจมั่นใจขนาดไหนว่าจะสามารถเอาผิดได้เราอยากขอความชัดเจนตรงส่วนนี้คนที่เสียลูกชายไปลูกสาวบาดเจ็บขนาดนี้คุณควรใช้กฎหมายช่วยเขาให้มากที่สุด

ส่วนนางอำนวย เพ็งเพชร  ผู้เป็นน้าของน้องพีพี และน้องเจ้าขา กล่าวว่า ตนเคยคุยโทรศัพท์กับผู้เป็นแม่ของน้องทั้งสองสอบถามความเป็นอยู่สารทุกข์สุขดิบตลอดซึ่งทางแม่จะบอกว่าน้องสบายดีไปโรงเรียนมีคนดูแลมีพยาบาลดูแลตลอดไม่ต้องเป็นห่วง ตนก็สบายใจ  จนมาทราบว่าน้องเสียชีวิตส่วนอีกคนโเนทำร้ายสาหัส รู้สึกเสีย  ทุกครั้งไปเยี่ยมน้องเจ้าขาที่โรงพยาบาล เห็นน้องเขาหัวบวมร่างกายมีบาดแผลเต็มตัว  ทุกครั้งเขาพยายามเรียกย่าๆๆ เราก็น้ำตาซึม ตนย่าและพ่อเคยมาติดต่อพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 65 ที่ผ่านมากรณีน้องพีพีเสียชีวิตเราทุกคนเองติดใจและไม่เชื่อว่าหลานจะเสียชีวิตโดยไม่มีสาเหตุและไม่น่าจะใช่จากการเสียชีวิตธรรมดาเราพยายามถามความคืบหน้าของคดีแต่ไม่คืบ จึงต้องมาร้องทนายรณรงค์ให้ช่วยเหลือในเรื่องนี้จนทุกๆอย่างค่อยๆกระจ่างขึ้นมาและนำมาสู่การจับกุมตัวแม่และพ่อเลี้ยงซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนทำร้าย หลานทั้งสองคน ก็อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต จ.นนทบุรี