ร้อยตำรวจโทปัญญพล แก้วปรีชากร  พนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด รับแจ้งเหตุปล้นทรัพย์บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ถนนติวานนท์ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงประสานกำลังชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบ

  ที่เกิดเหตุพบว่า คนร้ายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรรวบตัวไว้ได้แล้ว 2 คน ส่วนอีก 2 คนหลบหนีไปได้ทราบชื่อคือ นายประสงค์ ศรีสม อายุ 29 ปี ชาว จ.ปทุมธานี และ นายศุภวิชญ์ ชื่นสนธิ์ อายุ 20 ปี ชาว จ.นนทบุรี พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .22 และอาวุธปืนออโตเมติกขนาด .38 รวม 2 กระบอก  และเงินสดจำนวน 45,000 บาท ที่ซุกซ่อนอยู่ในขากางเกงที่พับปลายขาปิดทับไว้ ส่วนอีก 2 คนที่หลบหนีไปขณะนี้ทราบชื่อแล้ว คือ นายโอ๊ค กับ นายพีท ส่วนผู้เสียหายคือนายประสาน เอี่ยมเที่ยง อายุ 41 ปี รอให้การ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ และมอบหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่ผู้เสียหายถ่ายไว้ขณะถูกคนร้ายปล้นทรัพย์

  นายประสาน กล่าวว่า มีผู้ว่าจ้างตนให้ไปรับรถมอเตอร์ไซค์ และให้เบอร์โทรลูกค้า (คนร้าย) มา ตนโทรนัดและเจอกันที่ปั๊มเอสโซ่ ถ.ติวานนท์ พอตนมาถึงรอจนคนร้ายมา คนร้ายเกิดเปลี่ยนใจไม่ขายรถแล้ว ตนเลยถามว่าซื้อ-ขายเท่าไหร่ คนร้ายบอกขาย 43,000 บาท ตนบอกให้ 45,000 บาท และขอซื้อ ปรากฎว่าตกลงจะขายให้แต่ขอเงินสด ตนบอกว่าได้ไม่มีปัญหา ตนเลยเอารถมอเตอร์ไซค์ขึ้นท้ายรถกระบะและให้คนร้ายนั่งไปด้วย ตนขับรถวนไปหาตู้เอทีเอ็มและกดเงินให้ คนร้ายไป คนร้ายบอกให้ตนไปส่งที่ปั๊มเอสโซ่เพราะเพื่อนรออยู่ ตนเลยไปส่ง ปรากฎว่าพอมาถึงปั๊มเอสโซ่คนร้ายบอกเปลี่ยนใจไม่ขายแล้ว ตนบอกไม่เป็นไรแต่ขอเงินคืน เดี๋ยวเอารถลงให้ พอตนเปิดท้ายกะบะจะเอารถลงด้วยความที่ตนรู้สึกผิดสังเกตุ เพราะคนร้ายทำตัวเซื่องซึมซักพักมีเพื่อนคนร้ายมาอีก 2 คน ตนเลยเอารีโมทรถมอเตอร์ไซค์คันที่ซื้อขายซ่อนไว้ก่อน แล้วเปิดท้ายรถและขอเงินคืน คนร้ายไม่ยอมคืนเงินให้ ตนเลยพยายามหยิบเงินแต่คนร้ายกระชากเงินกลับ แล้วเพื่อนที่รออยู่วิ่งกันมา 2 คนพร้อมอาวุธปืน บอกให้ตนปล่อย ตนเลยบอกให้เอาเงินคืนมาก่อนเดี๋ยวเอารถลงให้ หลังจากนั้นเลยมีการกระชากกัน ตนเลยกระชากเสื้อคนร้ายไว้คนนึง ส่วนเพื่อนคนร้ายไปช่วยกันเอารถลงจากท้ายรถกระบะตน ตนลากคนร้ายไว้ไม่ยอมให้ไป ระหว่างนั้นตนตะโกนให้ชาวบ้านแถวนั้นแจ้งตำรวจ คนร้ายเอารถไปไม่ได้เพราะตนเอากุญแจซ่อนไว้อยู่ แล้วมันพยายามเข็นรถหนี ตนพยายามตามและยื้อเพื่อถ่วงเวลาจนเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมาถึง และจับคนร้ายได้ 2 คน อีก 2 คนหนีไปได้ ทุกคนมีอาวุธปืนครบ หลังจากเกิดเหตุตนกลับมา

สอบถามพยานแถวนั้นให้ข้อมูลว่าคนร้ายที่จับมาได้ตัวเล็กๆเอาอาวุธปืนไทยประดิษฐ์โยนทิ้งข้างทางแต่ตำรวจตามเก็บมาได้ ส่วนอีกคนเป็นอาวุธปืนลูกโม่ .22 ส่วนอีก 2 คนที่ตนรู้ว่ามันมีอาวุธปืนเพราะมันเอาปืนมาจี้หน้าตนเพื่อจะปล้นเอาเงินไป แต่ตนไม่ยอม จนตำรวจสามารถจับได้ โจรขโมยมันเยอะมากเลยอยากให้ระวังกันหน่อย ในเรื่องการซื้อ-ขาย ทรัพย์สินที่มีมูลค่า อยากให้ไปซื้อขายตรงหน้าโรงพักหรือแหล่งชุมชนดีกว่า เกิดเหตุอะไรมันมีคนเห็น คนช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้

  นางมาลิณี ชัยพันธุ์ อายุ 63 ปี แม่ค้าขายลอตเตอรี่ (ผู้เห็นเหตุการณ์) กล่าวว่า ตนเห็นผู้เสียหายลงมาจากรถ และคนร้าย 4 คนมากระชากกระเป๋า ตนมองเห็นและคิดว่าเขาถ่ายคอนเทนต์กัน ไม่คิดว่าเขาจะมาปล้นจี้กันหรอก แต่ผู้เสียหายเขาตะโกนให้คนช่วย พอตนเห็นคนร้ายชักปืนและมีดออกมาเลยวิ่งหนีไปอีกทาง ตนก็ห่วงลอตเตอรี่ด้วยเพราะนั่งขายอยู่กับน้องอีกคน ตอนแรกไม่กลัวเพราะคิดว่าเขาเล่นกัน ไม่คิดว่าโจรปล้น ผู้เสียหายก็ดูไม่ตกใจอะไร เขาถ่ายคลิปไปตลอดเรื่อยๆ ตำรวจจับได้แล้วใช่มั้ย ผู้จัดการเซเว่นคงเป็นคนแจ้ง ตอนแรกตนก็จะหนีเข้าเซเว่นแต่เข้าไม่ได้ เห็นมันชักปืนกับมีดมาตนก็กลัว

  ขณะที่ ด.ต.ณรงค์ หมู่หัวนา อายุ 49 ปี ผบ.หมู่จราจร สภ.ปากเกร็ด เล่าว่า ได้รับแจ้งจากผู้บังคับบัญชาให้ไปตรวจสอบเหตุเบื้องต้น ตนพร้อมเพื่อนจราจรอีก 1 นาย และกำลังสายตรวจ จึงรีบไปที่เกิดเหตุ พบผู้เสียหาย กำลังยื้อยุดฉุดกระชากอยู่กับผู้ก่อเหตุ เลยเข้าไปทำการตรวจค้นพบอาวุธปืน 1 กระบอก อยู่บริเวณเอวของคนร้าย จึงได้ดำเนินการจับกุมตัวมาที่ สภ.ปากเกร็ดเพื่อดำเนินคดี ไม่ได้มีเหตุขัดขืนต่อสู้แต่อย่างใด

ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต

จ.นนทบุรี