ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ หมู่ 13 หมู่บ้านดังแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจาก นาย ณัฐนัย (สงวนนามสกุล)อายุ 45 ปี ถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐไม่ชอบมาพากล จากกรณีเมื่อวันเสาร์ที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุถูกอดีตทหารอายุประมาณ 58-60 ปี ใช้ปืนลูกโม่ขนาด .357 แบบหัวระเบิดยิงใส่บริเวณหน้าบ้านระยะ 3 เมตรจำนวน 2 นัด ซึ่งในขณะเกิดเหตุมีเด็กๆอายุ 9-14 ปี จำนวน5 คน ซึ่งเป็นลูกและหลานกำลังเล่นอยู่พอดี โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่เพื่อนลูกสาวมีอาการผวาและจะร้องไห้ทุกครั้งที่มีคนพูดถึงเหตุการณ์นี้ จนผู้ปกครองต้องพาตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษา

นาย ณัฐนัย เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.40 น.วันเสาร์ที่ผ่านมา ตนเลิกงานกลับมาก็ได้ออกมาเล่นกับลูกๆและหลานๆบริเวณหน้าบ้านของตน ต่อมาเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นอดีตทหารได้ออกมาพร้อมกับถือปืนลูกโม่ขนาด.357 และทำการยิงใส่ตนทันที โดยกระสุนนัดแรกยิงผ่านตนเข้าไปในบ้านโดนกำแพงบ้านจนทะลุเข้าไปด้านในตัวบ้าน นัดที่สองเข้าไปที่บริเวณคานหลังคาบ้านกระสุนกระแตกกระจายไปกระทบส่วนอื่นๆของบ้าน โชคดีที่ไม่โดนเด็กๆที่กำลังเล่นอยู่หน้าบ้าน ตอนที่โดนยิงนัดแรกเด็กๆวิ่งแตกตื่นกันไปคนละทิศคนละทางตอนนั้นไม่รู้ว่ามีใครโดนยิงไหม เพราะลูกของตนและเพื่อนล้มอยู่บริเวณหน้ารถ ส่วนเด็กๆอีก 3 คนวิ่งไปทางข้างหลังแล้วไปสลบอยู่บริเวณหน้าบ้านข้างๆ

นาย ณัฐนัย เล่าต่ออีกว่า ก่อนหน้านี้เคยมีปัญหากันเรื่องที่คู่กรณีชอบให้อาหารแมวจรจัด แล้วแมวชอบมาขี้มาเยี่ยวหน้าบ้าน ถ้าแมวตัวสองตัวก็ไม่ว่าอะไร แต่นี้แมวเกือบ10ตัว เขาให้อาหารทุกวัน พอแมวไปขี้ไปเยี่ยวใส่หน้าบ้านคนอื่นเขาก็ไม่รับผิดชอบ จนเคยมีปากเสียงกันมาแล้วครั้งนึง จนกระทั่งล่าสุด ถึงขนาดเอาปืนออกมายิงแถมยังมีเด็กๆเล่นอยู่หน้าบ้านอีก หลังเกิดเหตุได้เดินทางเข้าไปแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง และสามารถตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ทันที โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการแจ้งข้อหาทั้งหมด 2 ข้อหา คือ พยายามฆ่าและยิงปืนในที่สาธารณะ ก่อนจะให้ประกันตัวในชั้นโรงพักออกไป ซึ่งสร้างความสงสัยให้กับตนและครอบครัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากหลังจากแจ้งความแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ให้เอกสารทางราชการอะไรกับตนมาเลย ไม่ว่าจะเป็นบันทึกประจำวันหรือเอกสารการแจ้งความดำเนินคดี มีแต่ให้ตนเซนเอกสารอะไรก็ไม่รู้ จะขออ่านรายละเอียดก็ไม่ให้อ่านจะให้เซนอย่างเดียว แถมตอนนี้คู่กรณีเก็บของออกจากบ้านไปแล้วไม่รู้ว่าหนีรึเปล่า ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยทำงานอย่างตรงไปตรงมาหน่อย อย่าเข้าข้างใครใครทำผิดก็ดำเนินคดีตามกฏหมาย

ทางด้าน นาย อวิรุธ (สงวนนามสกุล)อายุ 39 ปี ผู้ปกครองของ ด.ญ.โปกัส อายุ 14 ปี ซึ่งตอนนี้มีอาการทางจิตจนต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล กล่าวว่า ตอนนี้ตนรู้สึกแย่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตนมองว่าเรื่องบางเรื่องมันสามารถคุยกันได้ และเหตุการณ์นี้ถ้าหลานของตนต้องถึงขนาดเป็นเด็กจิตตก หรือถึงขนาดเสียสติไป หรือขั้นร้ายร้ายแรงอาจจะเสียชีวิตใครจะรับผิดชอบ จริงๆแล้วตนก็อยากรู้ว่าสิ่งที่เขาทำถูกต้องไหม เด็กผิดก็ว่าไปตามผิดก็ลงโทษว่ากล่าวตัดเตือนกันไป แต่ถึงขนาดเอาปืนออกมายิงถึงแม้เขาจะหวังผลกับคนอื่นแต่บริเวณนั้นมีเด็กๆอยู่ด้วยแถมอยู่กันหลายคนและระยะมันใกล้มาก ถ้าโดนเด็กไปอนาคตเขาจะเป็นยังไง เขาเป็นอดีตทหารเขาน่าจะมีสามัญสำนึกที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่อยู่ดีๆจะยกปืนขึ้นมาเล็งใส่ประชาชนแบบนี้

ส่วนอาการ ด.ญ.โปกัส ล่าสุดตอนนี้พาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาแล้ว เบื้องต้นเมื่อคืนที่ผ่านมาน้องยังมีอาการผวาขั้นรุนแรง ถ้าพูดถึงเรื่องปืน หรือพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีอาการร้องไห้ ผวาและหวาดกลัวมาก เมื่อช่วงเช้าก่อนจะพาไปหาหมอ น้องมีอาการซึมๆ เหม่อลอย กินข้าวได้น้อย ไม่ค่อยพูดทั้งๆที่แต่ก่อนน้องเป็นเด็กที่ร่าเริงมาก ซึ่งวันนี้หลังจากน้องกลับจากโรงพยาบาลแล้วอาการไม่ดีขึ้นตนก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อดี นาย อวิรุธ กล่าว

ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต จ.นนทบุรี