ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากแม่ค้าร้านขายของมือ 2 ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม โดยได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดมาแสดงเพื่อขอความเป็นธรรมและติดตามคดีหลังจากถูกชายกลางคนบุกเข้ามาตบภายในร้าน ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จักกันมาก่อน โดยได้ไปแจ้งความเอาไว้แล้วตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา โดยหวั่นคดีจะไม่คืบและถูกชายคนดังกล่าวกลับมาทำร้ายอีก

โดย นางสาวตูน อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดนครปฐม บอกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมาประมาณ 16.30 น. ขณะที่ตนเองกำลังขายของอยู่ที่ร้านขายของมือ 2 อยู่ที่ตลาดนัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม ซึ่งช่วงดังกล่าวมีตนเอง แม่ น้องชายและน้องสะใภ้กำลังนั่งขายของอยู่ ได้มีรถกระบะ สีส้มหมายเลขทะเบียน 7กฮ 2306 กรุงเทพ มาจอดแถวๆหน้าร้าน และมีชายกลางคนอายุประมาณ 32 ปี มาทราบทีหลังว่าชื่อเล่นว่าแบงค์ ได้เดินลงมาจากรถและตรงมาหาตนเองและเดินตรงมาขอตบตนเอง ซึ่งก็ได้บอกว่าใครเป็นคนขับรถคันสีดำและขอตบหน้าจังๆ 1 ทีได้ไหม ตนเองก็บอกว่าตบไม่ได้ไม่ได้รู้จักกัน จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ได้เข้ามาตบตนเองซึ่งได้เอี้ยวตัวหลบโดนที่ไหล่ตามคลิบที่ปรากฏ

 นางสาวอุมารินทร์ เล่าว่า  ตอนนี้ตนเองได้ไปแจ้งความไว้แล้วเมื่อวันที่ 25 ก.ย. ทันทีซึ่ง คู่กรณีที่เป็นสามีภรรยากันก็ได้ไปพบกับตนเอง ซึ่งได้บอกกับตนเองว่า เรื่องเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน เนื่องจากทั้ง 2สามีภรรยาได้มานั่งทานข้าวที่ตั้งอยู่ติดกับร้านตนเองและทางภรรยา ได้สังเกตเห็นได้ว่าสามีคือนายแบงค์ ได้มองตนเองตั้งแต่ช่วงที่เดินไปสั่งข้าวและลุกนั่งไปมากระทั่งขึ้นรถจะกลับบ้าน แต่ทั้ง 2 คนได้เข้ามาคุยแล้วบอกว่ารถสีดำของตนเองนั้นสวยและทางภรรยาได้แนะนำชื่อของสามีและมาบอกชื่อพ่อและแม่ให้ฟัง ซึ่งตนเองก็ยังงงว่าจะมาบอกเพื่ออะไรเพราะๆไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

“ในโรงพักภรรยาเขาบอกว่า หลังจากกลับไปแล้วสามีได้ไปจำภาพสรีระของตนเองไปช่วยตนเองและเกิดมีปากเสียงกัน โดยภรรยาเขาบอกว่าสามีนั้นเป็นคนหื่นมีแต่เรื่องอย่างว่าเต็มหัวไปหมด เมื่อทะเลากันแล้วทางภรรยาให้ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ โดยบอกว่าสามีมาตบหน้าเพื่อแสดงว่าไม่ได้คิดอะไรกับเรา วันรุ่งขึ้นเขาก็มาจอดรถรอจังหวะให้คนน้อยและบุกลงมาตามคลิบที่เห็น ซึ่งยังบอกว่าสามีมีพฤติกรรมให้สวิงด้วยลักษณะเป็นโรคจิต ” นางสาวอุมารินทร์ เล่าให้ฟังด้วยความงง

นางสาวอุมารินทร์ บอกต่อว่า หลังจากแจ้งความทางตำรวจได้ให้ตนเองไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลซึ่งตอนนี้ไม่ทราบว่าตำรวจไปเอาผลตรวจร่างกายหรือยัง ซึ่งตอนแรกคิดจะแจ้งความในฐานบุกรุก แต่ทางตำรวจบอกว่าแจ้งบุกไม่ได้เพราะร้านของเราไม่มีเลขที่และยังเป็นร้านค้าสถานที่เปิด จึงได้ให้ไปตรวจร่างกายไว้ ซึ่งเจตนาตนเองคือต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะยังไม่เข้าใจว่าเหตุการณ์แบบนี้มาเกิดขึ้นกับตนเองได้อย่างไรเพราะวันที่ไปกินข้าวและวันที่เขามาตบก็ไม่ได้แต่งตัวโป๊หรือล่อแหลมอะไร เรื่องนี้อยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและได้ปรึกษากับทนายความเอาไว้เบื้องต้นเพราะกลัวคดีจะเงียบรวมถึงกลัวเขาจะกลับมาทำร้ายอีกเพราะร้านราเปิดโล่งไม่มีรั้ว ซึ่งก็ทำงานกันแบบครอบครัวไม่ได้มีใครมาช่วยดูแลเราด้วย

ภาพ-ข่าว THAIREFERENCE จ.นครปฐม