ผู้สื่อข่าวรายงานประเด็นหลังจากที่มีภาพปรากฏ หมอปลา กัน จอมพลัง  ได้ถ่ายภาพร่วมกันกับหลวงพี่น้ำใน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม โดยในเพจของ “กัน จอมพลัง” ได้มีการขึ้นภาพและระบุข้อความว่า “การพูดให้คนทะเลาะกันมันง่ายมาก แต่ทำแล้วได้อะไรนอกจากศัตรู การทำให้คนรักกันมันอาจจะยากเพราะต้องทำมากกว่าพูดแต่มันก็คุ้มค่าที่จะทำ เพราะผลลัพธ์คือได้มิตรที่ยิ่งรักกัน ผมภูมิใจมากๆที่ได้เป็นส่วนนึงที่ทำให้เกิดวันดีๆแบบนี้ครับ หลังจากนี้หลวงพี่น้ำฝนจะเข้าช่วยเหลือดูแลการทำงานต่างๆ ของพี่หมอปลาให้มีความถูกต้องและสนับสนุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเราเน้นการทำงานไม่ให้เกิดผลเสียกับพระพุทธศาสนาครับ ซึ่งหลวงพี่น้ำฝนมีหน้าที่โดยตรง เป็นอะไรที่ดีมากๆครับ ยิ่งรวมกันยิ่งแข็งแกร่ง ขอขอบคุณพี่น้องที่ช่วยให้เกิดวันดีๆแบบนี้ครับพี่หนุ่ม ปองพล สะสมทรัพย์ พี่หนึ่ง เลขาท่าน ไชยา สะสมทรัพย์ โดยกระแสดังกล่าวได้เกิดเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนและประชาชน ไม่น้อยเนื่องนจากทั้งหมอปลาและหลวงพี่นำฝน ได้มีการสาอสารผ่านหน้าสื่อและโลกโซเชียล หลังเกิดประเด็นจากที่หมอปลา น้ำฟ้า และกัน จอมพลังได้มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าว กรณีที่มีกระแสสังคมเสียงแตกจากการที่ หมอปลา และทีมงานพร้อมสื่อมวลชนได้ ไลฟ์สดบุกไปถ่ายภาพและสอบถามหลวงปู่แสง และมีการแถลงข่าวมาถึงหลวงพี่น้ำฝน พร้อมประกาศหากมีข้อมูลที่วัดไผ่ล้อมทำผิดก็พร้อมจะบุกมาเช่นกัน

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยว่า ภาพที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงหัวค่ำของคืนวันที่ 25 พฤษภาคม 65 ที่ผ่านมา ซึ่งหมอปลา น้ำฟ้า และกัน จอมพลัง ได้เข้ามาขอพบที่วัดไผ่ล้อม เพื่อขอเปิดใจคุยกันกับประเด็นในสังคมที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นการพูดคุยส่วนตัวไม่ได้เปิดหรือแจ้งให้สื่อมวลชนเข้ามาติดตามประเด็นดังกล่าว โดยใช้เวลาการพูดคุยกันราว 1 ชั่วโมงเศษ ซึ่งเป็นการพูดถึงประเด็นที่เกี่ยวกับการทำงานของหมอปลา ที่เป็นประเด็นดังเป็นหลัก โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างเข้าใจกันดีแล้ว หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า การที่หมอปลาติดต่อเข้ามาก็ถือว่ายินดีต้อนรับดังที่เคยบอก ซึ่งเขาก็มาตามกระบวนการซึ่งอาตมาก็ยินดีต้อนรับ โดยเมื่อได้มาเจอกันก็ได้มีการเปิดใจคุยกัน โดยใช้เหตุผลที่แต่ละฝ่ายมีต่อกัน ซึ่งอาตมาก็ได้แจ้งไปว่า เห็นดีด้วยที่หมอปลาได้ทำงานในการดูแลพระพุทธศาสนา แต่ต้องทำงานแบบเข้าตามตรอกออกตามประตู ถ้ามีการประสานงานกับสำนักงานพระพุทธศาสนา หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีการนำไปสู่กระบวนการของคณะสงฆ์ ซึ่งถ้ามาปรึกษากันก่อนก็จะไม่เกิดเรื่องขึ้นแน่นอน และที่ผ่านมา จู่ๆ อาตมาก็คงจะไม่พูดต่อว่าคนนั้นคนนี้ แต่มีโยมมาสอบถาม ก็ได้พูดไปตามที่ถามมาเท่านั้น ซึ่งสิ่งสำคัญคือหากอาตมาเป็นพระที่ประพฤติเลว ก็คงอยู่ไม่ได้แน่นอน เช่นกันถ้าหมอปลาทำความดี อาตมาก็พร้อมจะส่งเสริมสนับสนุนเต็มที่

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่อว่า เรื่องที่เป็นปัญหาที่ประชาชนสนใจ คือ ภาพที่ปรากฏคือหน่วยงานที่ประชาชนร้องเรียนไปอาจจะขับเคลื่อนได้ช้าไม่ได้ตามใจ ซี่งช่องทางของหมอปลาสามารถทำได้รวดเร็วทันใจ ก็ได้รับการยอมรับ ซึ่งจากนี้หากมีการประสานงานกันระหว่างหน่วยงานรัฐ คณะสงฆ์เพื่อที่จะจรรโลงพระพุทธศาสนา ก็สามารถที่จะทำงานได้แน่นอน  “บอกได้ว่าวันนี้เราพร้อมผนึกกำลังประสานงานในการทำงานร่วมกันได้ ถ้าหมอปลามีข้อมูลแล้วมานำหารือกันอาตมาก็พร้อมจะเป็นตัวกลางในการประสานงานระหว่างหน่วยงานรัฐและพระในคณะปกครอง ดำเนินการตรวจสอบได้และเป็นการเข้าตามตรอกออกตามประตูด้วย เรื่องนี้บอกแล้วว่าเขาทำดีน่ะดีแล้ว แต่มันผิดวิธี เพราะความจริงก็คือความจริง หนีไม่พ้น เราคุยกันด้วยเหตุผลก็รู้แล้วว่าจะช่วยจรรโลงพระพุทธศาสนาอย่างไร ส่วนตัวไม่เคยมีอคติกับหมอปลา มาก่อน ซึ่งหากพระอยู่ในกรอบ ประชาชนก็จะชื่นใจนั่นเอง” หลวงพี่น้ำฝน กล่าว

หลวงพี่น้ำฝนกล่าว อีกว่า วันนี้ขอฝากไปว่าพระเองก็ต้องปรับตัวด้วย ที่สำคัญระดับล่างสุดคือ เจ้าอาวาสหากท่านสอดส่องตรวจสอบพระในวัดอย่างเคร่งครัดก็จะไม่เกิดอธิกรณ์ขึ้น ซึ่งเรื่องก็จะไม่ไปถึงเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัด และจะไม่ไปถึงหมอปลาอย่างแน่นอน ตอนนี้ได้ขอประสานหารือจาก พระเทพศาสนาภิบาล เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงพระอารามหลวง เจ้าคณะภาค 14 ว่าจะมีการตั้งคณะทำงานไปตรวจสอบแก้ไขเรื่องดังกล่าวหากได้รับการร้องเรียนและลงพื้นที่ทำงานทันที ซึ่งจะรวดเร็วและทำให้พุทธศาสนิกชนมั่นใจในคณะสงฆ์ได้แน่นอน

ภาพ-ข่าว THAIREFERENCE จ.นครปฐม