ได้เกิดเหตุระทึกขวัญเมื่อมีหนุ่มสติแตกบุกกระชากปืนเจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจและยิงใส่ตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ภายในพื้นที่ สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม โดยมีรายงานว่าผู้ก่อเหตุเป็นชายกลางคน ซึ่งถูกวิสามัญในที่เกิดเหตุ จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว โดยพบว่ามีบริเวณลานจอดรถด้านหน้า ศูนย์ป้องกันปราบปราม (ปจร.) สภ.นครชัยศรี ซึ่งพ.ต.อ.ณฐพงศ์ มุกดาหาญ ผกก.สภ.นครชัยศรี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร ร.พ.นครชัยศรี อัยการ ได้ลงตรวจสอบและพิสูจน์หลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมชันสูตร์พลิกศพผู้ตาย อย่างละเอียด ท่ามกลางความระทึกขวัญของเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ซึ่งไม่มีใครได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ดังกล่าว และในที่เกิดเหตุมีการพบปลอกกระสุนหลายนัด โดยศพของผู้ตายด้านหลังมีรอยสักพบว่าถูกยิงเข้าที่ลำตัวรวม 8 นัด สวมกางเกงขาสั้น และยังพบรถกระบะตอนเดียว ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บล 5130  พิษณุโลก จอดอยู่ในจุดจอดรถโดยมีเครื่องนอนพัดลมและเครื่องใช้ส่วนตัวใส่ไว้ที่ท้ายกระบะ และมีรถกระบะสี่ประตูยี่ห้ออีซูซุ สีขวาวหมายเลขทะเบียน 9 กร 763 นครปฐม จอดอยู่คู่กันอีก 1 คัน

ต่อมา พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พร้อมรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม 4 นาย ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบในจุดเกิดเหตุพร้อมเข้ารับรายงานเบื้องต้นและร่วมฟังการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ถูกชายคนดังกล่าวสาดกระสุนใส่ จำนวน 3 นาย ซึ่งมีตำรวจหญิงด้วย แต่ทุกคนไม่ได้รับบาดเจ็บหรือได้รับอันตรายแต่อย่างใด

พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เผยว่า หลังจากรับทราบเรื่องดังกล่าวได้ลงพื้นที่มาเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว พบว่ามีมีศพคนร้ายที่ถูกยิงเสียชีวิตทราบชื่อคือ นายเข็ม เพชรคำล่า อายุ 38 ปี โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงที่ พ.ต.ท.สมพงษ์ นาคขนอม สวป. สภ.นครชัยศรี เพิ่งออกจากเวรและกำลังจะถอดชุดเครื่องแบบโดยได้มาที่รถกระบะที่จอดอยู่ จู่ ๆ นายเข็มได้วิ่งเข้ามาชิงปืนที่ติดอยู่กับเอว ซึ่งเป็นปืนซิกซาวเออร์  ซึ่งเป็นปืนยุทธวิธีที่ดึงได้ยาก แต่สามารถดึงไปได้ จากนั้นได้ขึ้นลำเพลิงและกราดยิงไปในพื้นที่ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนาย แต่ไม่โดนซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้ยุทธวิธียิงตอบโต้จนคนร้ายเสียชีวิต

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม กล่าวอีกว่า เบื้องต้นทราบว่าผู้ต่ายไม่สบายใจเรื่องถูกภรรยายไล่ออกจากบ้านและมาถึงพื้นที่ต้งแต่ช่วงบ้ายโดยทางตำรวจได้สอบถามไปและสอบประวัติพบว่าไม่มีประวัติอาชญากรรม ก็เหมือนคนไม่สบายใจก็ให้อยู่เหมือนคนไม่สบายใจมาโรงพัก ช่วงเย็นตำรวจได้ไปสอบถามอีกและให้เงินไปกินข้าว 100 บาท ก็ยังไม่คิดว่าจะมีเหตุ แต่ช่วงเกิดเหตุที่มาก่อเหตุชิงอาวุธปืน ก็ได้มีการใช้ยุทธวิธีในการส่งเสียงแจ้งให้วางปืนและหยุดแต่ไม่ฟังและยิงใส่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องไปหลบหลังรถและใช้การยิงตอบโต้จนผู้ตายยุติการขัดขืนดังกล่าว

ภาพ-ข่าว THAIREFERENCE จ.นครปฐม