จากกรณี  คลับวัน  ผับดังเมืองพัทยา ย่านถนนเพ็ชรตระกูล เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจังหวัดชลบุรี และ ตำรวจสภ.เมืองพัทยา เข้าการตรวจสอบ แต่ปรากฎว่า มีการปะทะคารมณ์ ระหว่างเจ้าหน้าที่กับเจ้าของผับ ตามที่ปรากฏภาพในคลิป ส่วนนักเที่ยวกว่า 200 คน พากันแตกฮือ ไม่ให้ตรวจปัสสาวะ กรูกันวิ่งหนีออกจากผับ ด้านตำรวจยึดห่อพลาสติกใส บรรจุสิ่งคล้ายสารเสพติดเกลื่อนพื้น

ล่าสุด พล.ต.ต.ธีระชัย ชํานาญหมอ ผบก.สส.ภาค 2 พร้อมด้วย หน่วยคอมมานโด บูรพา 491 ถือหมายจับ 487/2565 ข้อกล่าวหาแสดง ข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในประวัติทะเบียนราษฎรอันเป็นเอกสารราชการ ( บัตรประชาชนปลอม ) เข้าทำการจับกุม นายนิติพัฒน์ หรือกู๋เอี๋ยว อายุ 45 ปี เป็นคนต่างด้าวไม่ทราบสัญชาติ เชื้อชาติจีน ถือบัตรประชาชนไทย

 โดยสามารถจับกุมได้ ที่หน้าศาลจังหวัดพัทยา ระหว่างที่เจ้าตัวเพิ่งออกจากการพิจารณาคดีเก่า “ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ประเภท ​2​ (คีตามีน​)​ ไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต​ โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า​ และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป​ ได้กระทำความผิดร้ายแรง​เกี่ยวกับยาเสพติด​เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน​“ จากนั้นตำรวจก็ควบคุมตัวมายัง สภ.เมืองพัทยา ทันที โดย นายนิติพัฒน์ โชคชัยธนพร หรือเอี่ยว หรือกู๋เอี๋ยว มีสีหน้าเคร่งเครียด อย่างเห็นได้ชัด          

หลังคดี “คลับวัน” สะท้อนการทำงานของเจ้าหน้ที่ ตำรวจ และ ปกครอง จนมีการออกแฉเรื่องส่วยการเรียกรับผลประโยชน์ ร่วมถึงการตรวจสอบว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือ ตำรวจจึงมีการ สืบสวนสอบสวนหาเจ้าของตัวจริง โดยมีการนำหมายค้น เข้าตรวจสอบ เอกสารสำคัญ ร่วมถึง เส้นทางการเงิน ของคลับวัน ผับทั้งหมด จนพบว่า เอี๋ยว คือเจ้าของตัวจริง มิหนำซ้ำ ยังตรวจสอบพบว่า ที่แท้จริง   เป็นคนสัญชาติจีน แต่ มีบัตรประชาชนไทย

ตำรวจเริ่มแกะรอยสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนพบว่า นายเอี๋ยว ได้ใช้ชื่อว่า “นายนิติพัฒน์   โชคชัยธนพร”  ไม่ใช่บุคคลตามทะเบียนราษฎร์จริง ประกอบกับได้บันทึกถ้อยคำ “นางม่วย  มารดาของ นายนิติพัฒน์  หรือเอี๋ยว  (ตามฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์) และ นางสุนีย์  อายุ 44 ปี พี่น้องต่างมารดา (ตามฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์) แล้วให้ถ้อยคำตรงกันว่าไม่เคยรู้จักหรือเห็นหน้านายนิติพัฒน์ฯ มาก่อน จึงทำให้ตำรวจมั่นใจว่า “กู๋เอี๋ยว” มีการสวมชื่อบัตรประชาชนของคนอื่น เพื่อมีบัตรประชาชนไทยไว้ในความครอบครอง และ แสดงตัวตน ว่าตัวเองเป็นคนไทย ตำรวจจึงรวบรวมหลักฐาน จนออกหมายจับดังกล่าว

นอกจากนี้ ตำรวจแบ่งกำลัง เข้าทำการตรวจค้น 11 จุดพร้อมกันทั่วเมืองพัทยา และ ในท้องที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อหาหลักฐานสำคัญ เพื่อพิสูจน์ทราบ และ หาจุดเชื่อมโยงต่างๆ หลังพบว่า กู๋เอี๋ยว มีส่วนเกี่ยวข้อง กับผับคนจีนชื่อดัง “ท็อปวัน” ในการส่งลูกค้าไปใช้บริการ หลัง “ผับ คลับวัน” ถูกปิด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ภาพ/ข่าว อนันต์ สุขวัฒนะ เอกชัย สุขวัฒนะ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค พัทยา จ.ชลบุรี