นายจรูญ บุดดา  อายุ 62 ปีชาวบ้านบ้านดอนเกษตร ตำบลกุดน้ำใส อำเภอจัตุรัสจังหวัดชัยภูมิใช้เวลาว่างหลังจากทำไร่ทำนาทำสวนปลูกมันสำปะหลังแล้วหันมาปลูกผักขึ้นฉ่ายผักบุ้งผักชีบนเนื้อที่ 1 ไร่ส่งขายที่ตลาดอำเภอจัตุรัสมีรายได้เข้าครอบครัวกว่าวันละ 1,000 บาท เป็นการเสริมรายได้ในครอบครัวช่วงรอฤดูกาลปลูกข้าว

นายจรูญ เล่าว่า ตนเองทำการเกษตรมาทุกรูปแบบปลูกอ้อยทำนาปลูกมันเลี้ยง หมู เลี้ยงวัว ทำฟาร์มไก่ ทำมาแทบทุกอย่าง ขาดทุนทุกอย่างเจ็บตัวมาก็เยอะสุดท้ายลงเอยที่ปลูกผักขายทำให้มีรายได้เข้าครอบครัวทุกวันเป็นประจำโดยในแต่ละวันจะทำงานประมาณ2-3ชั่วโมง คือช่วงเช้ารดน้ำเก็บผักเตรียมส่งตลาด ช่วงเย็นรดผักใสปุ๋ย มีรายได้จากการขายผักเฉลี่ยวันละ 1,000 บาทซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ดีสามารถเลี้ยงครอบครัวให้อยู่รอดได้ถึงทุกวันนี้ และที่สำคัญตนไม่ได้มองที่รายได้แต่ตนมองที่สถาบันครอบครัว อาหารที่สะอาดปราศจาคสารเคมี ที่ตนสามารถควบคุมได้

นายจรูญ เล่าเพิ่มเติมว่า ชาวนาทำนาขาดทุนมาโดยตลอด เนื่องจากต้นทุนที่สูง ส่วนใหญ่จึงเป็นหนี้สินจากการไปกู้ยืมเงินเพื่อมาทำนา ซึ่งนับวันทั้งต้นทั้งดอกก็ทวีคูณ จนกลายเป็นหนี้ล้นพ้นตัว ตนมองว่าหนทางที่จะพาครอบครัวอยู่รอดก็คือการ ทำนาแค่พอกินพื้นที่ที่เหลือ ก็นำไปปลูกผักอายุสั้น ที่สามารถขายได้อย่างต่อเนื่องทุกวัน ซึ่งทุกวันนี้ตนมีความสุขกับครอบครัว ที่อยู่อย่างพอเพียง///

 ภาพ-ข่าว วิรัตน์  ดวงแก้ว จ.ชัยภูมิ