นางก้อย (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี พนักงานโรงงานทำที่นอนแห่งหนึ่งในอ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เข้าร้องทุกข์ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี จ.ปทุมธานี แจ้งว่า ก่อนหน้านี้ตนได้พา น้องอิน (นามสมมุติ) ลูกสาววัย 8 ขวบ ไปฝากไว้ให้อยู่กับปู่และย่าที่จ.พะเยา เพื่อให้ลูกได้เรียนหนังสือ แต่นายสมัย (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี อดีตสามีที่แยกทางกันเพราะมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดแอบไปรับลูกมาอยู่ที่ห้องเช่าในต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มักจะพาลูกสาวไปเร่ร่อนกินนอนข้างถนนและตามสะพานลอยทำให้ดูน่าสงสารเพื่อขอเงินกับคนที่รู้จักไปซื้อยาบ้าเสพ และถ่ายรูปส่งแชทเฟซบุ๊กมาข่มขู่เพื่อให้ตนกลับไปคืนดีด้วย แต่ตนไม่ต้องการกลับไปคืนดีด้วยเพราะเคยถูกนายสมัยทุบตีเป็นประจำ และตนไม่อยากให้ลูกสาวต้องตกระกำลำบาก ขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย

หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.ณัฐจักร จันลา ผกก.สภ.กบินทร์บุรี เพื่อให้นางก้อยเดินทางไปพบ หลังนางก้อยไปถึงที่ ผกก.สภ.กบินทร์บุรี พ.ต.อ.ณัฐจักร ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ปรัชญา กระแสร์ลาภ รอง ผกก.สส.สภ.กบินทร์บุรี และพ.ต.ต.นิติพัฒน์ เหมะกุลเศรษฐ์ สว.สส.สภ.กบินทร์บุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ห้องเช่าที่พักของนายสมัยทันที พบนายสมัยอยู่กับน้องอินภายในห้องเช่าจึงเข้าช่วยเหลือเด็กเอาไว้ก่อนจะคุมตัวนายสมัย ไปสอบปากคำและตรวจปัสสาวะที่สภ.กบินทร์บุรี เบื้องต้นตรวจพบสารเสพติด และนายสมัยให้การรับสารภาพว่า เสพยาบ้าจริง เจ้าหน้าที่จึงดำเนินคดีในข้อหา เสพยาบ้า ขณะที่น้องอินได้กลับสู่อ้อมอกแม่อย่างปลอดภัย

นางปวีณา กล่าวว่า ขอบคุณ พ.ต.อ.ณัฐจักร จันลา ผกก.สภ.กบินทร์บุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี ที่ทำงานอย่างรวดเร็ว ช่วยเด็กให้กลับมาอยู่กับแม่และจะได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ได้เรียนหนังสือ และมีอนาคตที่ดีต่อไป..