สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับและศูนย์สั่งการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดแม่ฮ่องสอน ต้องระดมรถน้ำทั้งจากของทหารหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 7 เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน องค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอนและจาก องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียง จำนวน 7 คัน ขึ้นไปทำการฉีดพ่นละอองน้ำที่บริเวณลานด้านหน้าของวัดพระธาตุดอยกองมู

ซึ่งเป็นทำเลที่อยู่สูงที่สุดที่สามารถมองเห็นตัวเมืองได้ทั้งหมด จากนั้นได้เร่งฉีดพ่นละอองน้ำขึ้นสู่อากาศและทิศทางไปยังตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ ลดปริมาณความร้อนสะสมและหวังให้ช่วยบรรเทากลุ่มหมอกควันจากไฟป่าที่ปกคลุมในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเบาบางลง เป็นการบรรเทาปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน ซึ่งในระหว่างที่พ่นละอองน้ำอยู่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังพบว่ามีกลุ่มหมอกควันจากการเผาป่าจากบนยอดดอยห่างจากศาลากลางจังหวัดไปเพียง 2 กิโลเมตรและมีท่าทีลุกลามขยายเป็นวงกว้างขึ้นไปเรื่อย หน่วยงานที่รับผิดชอบได้ประสานไปยังสถานีควบคุมไฟป่าแม่ฮ่องสอนให้นำกำลังเข้าตรวจสอบและดำเนินการเป็นการเร่งด่วน นอกจากนี้ยังต้องวางแผนให้รถน้ำเข้าทำการฉีดพ่นตามถนนสายต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอนทุกวัน ทั้งในช่วงเช้าและช่วงเย็น

 ปัญหาและผลกระทบของไฟป่าและหมอกควันของจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้น วันนี้ถือว่าเป็นวันแรกที่ค่าตรวจวัดคุณภาพอากาศทะลักเกินค่ามาตรฐานเป็นวันแรก พร้อมๆ กับสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงบ่ายที่อุณหภูมิสูงถึง 37-39 องศาเซลเซียส และค่าเครื่องตรวจวัดฝุ่นละอองในอากาศที่ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.แม่ฮ่องสอน สามารถวัดปริมาณค่าฝุ่นละอองค่า PM2.5 สูงถึง 102 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) คุณภาพอากาศโดยรวมในระยะนี้อยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน และจากสภาพอากาศดังกล่าวก็เริ่มส่งผลต่อทัศนวิสัยที่มีผลต่อการขึ้นลงของเครื่องบินด้วยเช่นกัน

 สำหรับพื้นที่ที่พบปัญหาการลักลอบจุดไฟเผาป่ามากที่สุด นับจากประกาศงดการเผาทุกชนิดในพื้นที่โล่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอน นับจากวันที่ 20 กุมภาพันธ์ เป็นต้นมา พบว่าพื้นที่ที่พบจุดเกิดไฟมากที่สุดอยู่ที่ในเขตอำเภอเมือง ปาย ปางมะผ้าและอำเภอแม่สะเรียง ตามลำดับ

ภาพ-ข่าว วิรัตน์  นันทะพรพิบูลย์ จ.แม่ฮ่องสอน