นายวัชรินทร์ เขจรวงศ์ ประธานกลุ่มรวมพลคนโคกหนองนา อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ สมาชิก 114 ครัวเรือน 48 หมู่บ้าน 5 ตำบล และเครือข่าย “โคกหนองหนองจังหวัดกาฬสินธุ์” สมาชิก 1,748 ครัวเรือน จาก 18 อำเภอ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ ฝนที่ตกมาตามฤดูกาล ที่มีปริมาณน้ำฝนสม่ำเสมอ และมากกว่าปีที่ผ่านมา ชาวนาที่เคยทำนาหว่านหรือ ผายข้าว หว่านเข้าแห้ง ต้องหันมาทำนาแบบปักดำ เพราะปริมาณน้ำมาก ไม่สามารถทำนาแบบนาหว่านได้

ชาวนาหลายคนต้องทำนา 2-3 ครั้ง เพราะหว่านแล้วข้าวเน่าตาย  โดยตนเองขอแจ้งถึงพี่น้องชาวนา ทุกท่านได้เตรียมกล้าข้าวไว้ด้วย ระยะเวลาการทำนายังเหลืออีก 30-45 วัน หากเลยปลายเดือนกันยายน ถือว่าจะสิ้นสุดฤดูกาลทำนาปี แล้ว  ข้าวเก็บเกี่ยวจากเหนือลงใต้ ผลไม้เก็บจากใต้ขึ้นเหนือ  เป็นเรื่องจริงตามธรรมชาติ ปลายเดือนตุลาคม ข้าวเริ่มออกรวงแล้ว 10-15 พฤศจิกายนเริ่มเก็บเกี่ยว ไม่เกิน 5 ธันวาคม ข้าวหมดจากนา เข้าสู่โรงสีหรือยุ้งฉางของชาวนา

นายวัชรินทร์ เขจรวงศ์ ประธานกลุ่มรวมพลคนโคกหนองนา อำเภอดอนจาน กล่าวว่า วันนี้ สมาชิกกลุ่มรวมพลคนโคกหนองนา บ้านนาน้อย หมู่ที่ 5 ต.ม่วงนา อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ ร่วมดำนากับสมาชิกกลุ่มรวมพลคนโคกหนองนา เป็นแปลงนาที่อุดมสมบูรณ์มาก น้ำบริบูรณ์  เตรียมกล้าข้าวเหนียว พันธุ์ กข.6 อายุกล้า 35 วัน แรงงานขณะนี้ 350 บาท/วัน อาหาร 2 มื้อเช้าเที่ยง มีรถรับส่ง  แรงงานหายากด้วย ต้นทุนการผลิตในการทำนาสูงมาก  ค่าเตรียมดิน ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ข้าว แรงงาน จนถึงการเก็บเกี่ยว 3,500-3,800 บาท/ไร่ หากผลผลิต 500-600 ก.ก./ไร่ ข้าว 10 บาท/ก.ก. เหลือติดมือเล็กน้อย หากราคาข้าว 18-20 บาท ชาวนาพอลืมตาอ้าปากได้  ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล 

นายวัชรินทร์ ยังบอกอีกว่า ตนเองฝากถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ให้หันหน้ามาดูแลชาวนาด้วย  อย่าหันหน้าแต่ทะเลาะกันทั้งฝ่ายค้น ฝ่ายรัฐบาล ให้ดูแลชาวนาหรือเกษตรกร ที่เป็นคนจำนวนมากในแผ่นดิน 80-85% เพราะข้าวเปลือกราคาถูก ข้าวสารราคาแพงมันมีผลกระทบต่อคนในเมือง หรือในเมืองหลวง  ผลประโยชน์เกิดกับนายทุนหรือพ่อค้าคนกลาง ซื้อข้าวจากชาวนา ก.ก.ละ 9 บาท สีเป็นข้าวสารถุงขายราแพงริบริ้ว หากดูแลชาวนาไม่ได้ รัฐบาลจะอยู่ได้อย่างไร

ภาพ-ข่าว อาทิตย์ จ.กาฬสินธุ์