นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนพร้อม นายพงษ์พีระ  ชูชื่น  นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และป้องกันจังหวัดแม่ฮ่องสอน เดินทางตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานและสังเกตการณ์สถานการณ์ รวมทั้งตรวจสอบพื้นที่อพยพของ ผู้หนีภัยความไม่สงบ จากการปะทะ ระหว่าง ทหารเมียนมา กับ กองกำลังชนกลุ่มน้อยเชื้อสายคะยา บริเวณฝั่งเมียนมา ด้านตรงข้ามจังหวัดแม่ฮ่องสอน ณ พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ช่องทางทะนาควาย บ้านในสอย ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีจำนวนผู้อพยพทั้งสิ้น 714 คน

และได้มีการประชุมร่วมกับกองอำนวยการร่วมแก้ไขปัญหาสถานการณ์ผู้หนีภัยความไม่สงบ โดยเน้นย้ำไม่ให้ผู้อพยพเดินทางเข้ามาในศูนย์พักพิงชั่วคราว แต่ให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมกับผู้หนีภัยความไม่สงบในพื้นที่ปลอดภัยเป็นการชั่วคราวอย่างทั่วถึง และพอเพียงต่อการดำรงชีพ ภายใต้การดำเนินการของภาครัฐ โดยไม่สนับสนุนให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง นอกจากนี้ได้ขอความร่วมมือ ประชาชนในพื้นที่ งดการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว เพื่อให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 โดยเคร่งครัด พร้อมทั้งให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

 ด้านพลตรี ประสาน แสงศิริรักษ์  ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร เดินทางไปตรวจเยี่ยมและบำรุงขวัญกำลังพลหน่วยปฏิบัติการในสนาม ณ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 บ้านม่อนตะแลง  ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยมี  พันเอก สุจินต์ ทรัพย์สิน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 นำกำลังพลทหารให้การต้อนรับ พร้อมกันนี้ ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร ได้มอบชุดของขวัญ และเครื่องอุปโภคบริโภค  ข้าวสาร  อาการสำเร็จรูป และชุดตรวจ ATK ให้กับกำลังพล

ภายหลังการตรวจเยี่ยม พลตรี ประสาน  แสงศิริรักษ์  ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร ให้สัมภาษณ์ว่า การเดินทางมาตรวจเยี่ยมกำลังพลสนามในพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 เพื่อรับทราบปัญหาข้อขัดข้องหลังจากได้มอบนโยบายจากผู้บังคับบัญชาในทุกระดับแล้ว เพื่อมาช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ และถือโอกาสมาอวยพรปีใหม่และมอบของขวัญปีใหม่ให้กำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติงาน และเน้นย้ำเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิดในหน่วยทหาร และดูแลช่วยเหลือสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงโควิดอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดหรือคราสเตอร์ในหมู่บ้านชุมชน

พลตรี ประสาน แสงศิริรักษ์  ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร กล่าวเพิ่มเติมถึงสถานการณ์การสู้รบในประเทศเพื่อนบ้านว่า สถานการณ์การปะทะกันระหว่างทหารเมียนมา กับชนกลุ่มน้อยเชื้อสายคะยา เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในของประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดน แต่ในห้วง 2 วันนี้ได้มีแนวโน้มคลี่คลายลงตามลำดับ แต่ที่ส่งผลกระทบมาคือมีผู้ลี้ภัยจากความไม่สงบชาวเมียนมาในหมู่บ้านชายแดนของประเทศเพื่อนบ้านอพยพเข้ามาในเขตไทย

ขณะนี้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง โดยหน่วยทหารได้กำหนดพื้นที่ควบคุมและดูแลความเป็นอยู่ตามหลักมนุษยธรรมอยู่แล้ว แต่ถ้าหากสถานการณ์คลี่คลายก็คงจะให้เดินทางกลับไปยังพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านต่อไป ส่วนเรื่องที่สำคัญเร่งด่วนคือความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนคนไทยตามแนวชายแดน ได้ให้หน่วยทหารในพื้นที่ดูแลความปลอดภัยสูงสุด รวมทั้งชีวิตและทรัพย์สิน หากมีสถานการณ์ชายแดนรุนแรงสิ่งที่จะต้องทำเร่งด่วนคือต้องอพยพคนไทยที่อยู่ตามแนวชายแดนให้เข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยเร่งด่วน แต่ขณะนี้สถานการณ์ภายในประเทศเพื่อนบ้านคลี่คลายลงจึงให้หน่วยทหารในพื้นที่เฝ้าระวังดูแลความปลอดภัยประชาชนตามแนวชายแดนอย่างใกล้ชิด

ภาพ-ข่าว วิรัตน์  นันทะพรพิบูลย์  จ.แม่ฮ่องสอน