นายทวีชัย กันทใจ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษกรมป่าไม้แม่ฮ่องสอน สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา โดยการอำนวยการของนายเกษม คำมา ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอนและนายสมจินต์ เนตรประดิษฐ์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า มอบหมายให้เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า มส.2 (อำเภอเมือง) ประสานงานกับหน่วยป้องกันรักษาป่า ชม.12 (บ้านจันทร์) ,กองร้อยทหารราบที่1743 , กองร้อย อส.อำเภอกัลยาณิวัฒนาที่26 และผู้ใหญ่บ้าน บ้านห้วยตอง ม.ที่ 5 ต.ห้วยปูลิง อำเภอเมืองเเม่ฮ่องสอน เข้าตรวจสอบพื้นที่ร้องเรียนว่ามีการใช้เครื่องจักรกลเข้าบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตัดเส้นทางทำถนนใหม่บริเวณเขตติดต่อระหว่างบ้านห้วยตอง หมู่ที่ 5 ต.ห้วยปูลิง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอนกับเขต อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ จึงร่วมกันเข้าตรวจสอบกับฝ่ายปกครอง อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ พบว่ามีรถไถฟาร์มแทรกเตอร์ล้อยางจอดอยู่ 2 คันในที่เกิดเหตุ ไม่พบใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการยึดไว้เพื่อดำเนินคดีและนำไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วย ชม.12(บ้านวัดจันทร์)
นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอกัลยาณิวัฒนากล่าวว่า ได้มีพลเมืองดีแจ้ง แจ้งผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ว่ามีการบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แจ่ม บริเวณเขตรอยต่อระหว่างบ้านหนองเจ็ดหน่วย ม.4 ต.บ้านจันทร์ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ กับ บ้านห้วยตอง ม.5 ต.ห้วยปูลิง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน จึงได้บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบข้อร้องเรียนฯ พบรถไถฟาร์มจำนวน 2 คันดังกล่าว จอดทิ้งไว้ ไม่พบผู้กระทำความผิดคาดว่าน่าจะหลบหนีขณะเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ โดยพบมีร่องรอยการไถพื้นที่ป่าได้รับความเสียหายบางส่วน จึงได้ทำการตรวจยึดของกลาง ซึ่งเป็นรถไถฟาร์ม จำนวน 2 คัน พร้อมทั้งตรวจสอบ ความเสียหายและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อ ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกัลยาณิวัฒนา เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอกัลยาณิวัฒนายังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การป้องกันและรักษา ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการจัดระเบียบสังคมและการปราบปรามผู้มีอิทธิพล เป็นนโยบายและภารกิจสำคัญของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทยและกรมการปกครอง และจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และรักษาความมั่นคงภายใน ให้พี่น้องประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข โดยได้มอบหมายให้นายอำเภอ เป็นผู้นำนโยบายมาปฏิบัติในพื้นที่ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้อำเภอกัลยาณิวัฒนา เป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ(ป่าแม่แจ่ม) โดยพื้นที่ร้อยละ 90 เป็นพื้นที่ป่าสงวน และเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำระดับ 1 ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญที่สุดที่จะต้องอนุรักษ์ รักษาไว้ให้เป็นสมบัติสาธารณะของแผ่นดิน ได้ส่งต่อให้กับลูกหลานได้ดูแลรักษาและใช้ประโยชน์ต่อไปในอนาคต ดังนั้นพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะเป็นผู้ใด หากพบเห็นการกระทำความผิด หรือคาดว่าจะเป็นการกระทำความผิด เกี่ยวกับการบุกรุกแผ้วถางทำลายป่าไม้หรือทรัพยากรธรรมชาติ ขอให้แจ้งผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอกัลยาณิวัฒนา เพื่อประสานการปฏิบัติและบูรณาการกับหน่วยงานทุกภาคส่วนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่หมายเลขโทรศัพท์ 053-484062 ต่อไป
ภาพ-ข่าว ทศพล / แม่ฮ่องสอน