ร้อยตำรวจเอกสำเริง ชำนาญ รองผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 336 จังหวัดแม่ฮ่องสอน นำกำลังพล ร่วมกับ  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หมอกจำแป่ ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน, เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแม่ฮ่องสอน  , กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใจจังหวัดแม่ฮ่องสอน , ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 17 ร้อย ร.711 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองกำกับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดแม่ฮ่องสอน หลังสืบทราบว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวแผงตัวเป็นนักท่องเที่ยว เข้าไปฝังตัวอยู่ในบ้านรักไทย ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นหมู่บ้านชื่อดังด้านการท่องเที่ยวและเตรียมขนแรงงานในช่วงหลางคืน

จนกระทั่งช่วงก่อนรุ่งสางเจ้าหน้าที่ก็พบว่ามีรถยนต์กระบะ 3 คัน ขับออกมาจากแนวชายแดนของหมู่บ้านรักไทยและเร่งความเร็วออกมาตามเส้นทางหลวงหมายเลข 4001 รักไทย-แม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนขอตรวจค้น แต่รถทั้ง 3 คัน กลับเร่งขับหลบหนี ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องไล่ติดตามสกัดจับกันโกลาหลและยังต้องระมัดระวังเนื่องจากสภาพเส้นทางเป็นถนนคดเคี้ยวและเกรงว่ากลุ่มลักลอบขนแรงงานจะมีอาวุธ จนกระทั่งมีรถของเจ้าหน้าที่ป่าไม้และรถของชาวบ้านที่ประสบเหตุได้ช่วยพยายามขับปิดเส้นทาง และเฉี่ยวชนกับรถของผู้ที่หวังดี สุดท้ายเจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ 1คันที่สะพานบ้านห้วยขาน ส่วนอีก 2 คันอาศัยความมืดขับหลบหนีไปได้ แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามไล่ตามแต่ก็หนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด เพราะตลอดเส้นทางมีทางแยกเชื่อมต่อไปยังหมู่บ้านอื่นๆ มากมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่ายังคงหลบหนีกบดานในพื้นที่และจะต้องติดตามอีกครั้ง

สำหรับรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน 2 ฒล-5286 กทม.ที่สกัดจับได้นั้น มีนายนายวิวัฒน์ บุญกัน อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 ม.3 ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอนเป็นคนขับ ตรวจสอบทั้งที่นั่งแคปและที่กระบะหลังก็พบแรงงานต่างด้าวชายหญิงกว่า 10 คน แออัดกันมาแน่นรถ ทั้งหมดเป็นชาวเมียนมา โดยนายวิวัฒน์ยอมรับว่าขนแรงงานต่างด้าวร่วมกับเพื่อนที่หนีไปได้อีก 2 คันจริง ด้วยการนัดแนะกับคนนำทางมาส่งที่ชายแดนบ้านรักไทยและพักรอเพื่อส่งแรงงานเหล่านี้ไปยังแคมป์คนงานก่อสร้างที่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และลำพูน โดยได้ค่าจ้างรายหัวคนละ 35,000 บาทและให้การเป็นประโยนช์กับเจ้าหน้าที่ ที่ทราบแล้วว่าขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้มีการทำกันเป็นขบวนการร่วมกับเครือข่ายในที่ฝังตัวอยู่ในเขตประเทศเพื่อนบ้านและมีการแฝงตัวและรถยนต์ที่ใช้ก็จะเน้นเป็นรถทะเบียนกรุงเทพมหานคร เพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมหรือตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ เพราะในช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปยังจังหวัดแม่ฮ่องสอนจำนวนมาก

หลังการสอบสวนแล้วทางชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อหาร่วมกันให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุมกับนายวิวัฒนาและต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองทั้งหมด พร้อมกับนำตัวส่งดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรหมอกจำแป่และจัดชุดติดตามจับกุมรถที่หลบหนีอย่างกระชั้นชิดต่อไป

ภาพ-ข่าว วิรัตน์  นันทะพรพิบูลย์  จ.แม่ฮ่องสอน