กลุ่มผู้เสียหายชาวต่างชาติ พร้อมภรรยาชาวไทยจำนวนมากเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พิศิษฏ์ พูลทรัพย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา หลังถูกอดีตผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี สับเปลี่ยนเงินในบัญชีจนหมด บางรายหลอกให้ร่วมลงทุนก่อสูญเงินนับล้านบาท จึงได้ร่วมตัวมาขอความเป็นธรรม หลังจากผู้เสียชายชาวต่างชาติบางรายถูกยักย้ายเงินจากบัญชีตัวเองจนหมดเกลี้ยง
โดยพฤติกรรมของผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารรายนี้คือเมื่อมีการโอนเงินจากต่างประเทศมาเข้าบัญชีธนาคารซึ่งเป็นชื่อของชาวต่างชาติ ทางผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารคนนี้ได้รับหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบและอัพสมุดบัญชีให้ ลักษณะเหมือนกับการฝากถอนโอนตามปกติที่ทำกับเจ้าหน้าที่ธนาคารทั่วไป โดยชาวต่างชาติจะได้รับสมุดธนาคารที่มียอดบัญชีตรงตามที่โอนมาจากต่างประเทศ ก่อนมาทราบภายหลังว่าเงินในบัญชีธนาคารนั้นไม่มี พอไปสอบถามธนาคารดังกล่าว พบว่าสมุดและใบฝากหรือโอนนั้นเป็นของปลอมหรือที่ธนาคารไม่ใช้แล้ว
นอกจากนี้ ผู้เสียหายบางรายถูกผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารคนเดียวกันหลอกให้ร่วมลงทุน โดยหลอกล่อว่า ได้ค่าตอบแทนหรือดอกเบี้ยสูง ซึ่งทางชาวต่างชาติก็เห็นว่าต้องฝากเงินอยู่แล้ว และบุคคลดังกล่าวก็เป็นถึงผู้ช่วยผู้จัดการธนาคาร มีความน่าเชื่อถือ อีกทั้งเป็นการทำธุรกรรมในธนาคาร เลยตัดสินใจร่วมลงทุน ก่อนมาสูญเงินจำนวนมาก ซึ่งมูลค่าความเสียหายทั้งหมดหลายสิบล้านบาท
ด้าน พ.ต.อ.พิศิษฏ์ พูลทรัพย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า เบื้องต้นก็จะให้ความเป็นธรรมทั้งฝ่ายผู้เสียหายชาวต่างชาติ และทางบุคคลที่ถูกแจ้งความจับคือ นายชัยสิทธิ์
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นทางธนาคารดังกล่าว ได้มาแจ้งความจับกุม นายชัยสิทธิ์ ทรัพย์เพิ่มพูน แล้ว ในข้อหาลักทรัพย์ เนื่องจากผู้ต้องหา ได้นำสมุดบัญชี เอกสารบางอย่างที่ทางธนาคารเลิกใช้แล้ว และให้นำไปทำลายทิ้ง แต่ผู้ต้องหากลับนำมาใช้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวพร้อมส่งคุมขังที่เรือนจำพิเศษพัทยา และคัดค้านการประกันตัว
พ.ต.อ.พิศิษฏ์ พูลทรัพย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนผู้เสียหายรายอื่นจะให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเติม และรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่ากระทำผิดในฐานความผิดใดก็แจ้งข้อหาเพิ่ม เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว อนันต์ สุขวัฒนะ เอกชัย สุขวัฒนะ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค พัทยา จ.ชลบุรี
