ที่ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอำนาจเจริญ นายจำรัส ไกยสิทธิ์ทนายดัง ประธานชมรมผู้ตื่นรู้ประชาธิปไตยจังหวัดอำนาจเจริญ และภาคอีสาน กล่าวว่าวันนี้ตนได้ทำหน้าที่พลเมืองดี แทนพี่น้องประชาชนทั่วราชอาฌาจักรไทย คือได้เดินทางมายื่นหนังสือให้ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา อดีต นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำนาจเจริญ เรื่องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คืนเงินเดือนหลวงชึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเงินภาษีของประชาชนแทบทั้งสิ้นรวม 8 วันทำการ ภายใน 5 วัน นับแต่ได้รับหนังสือนี้ หากเพิกเฉยอาจจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ทั้งทางแพ่งและทางอาญาได้ เนื่องจากวันที่ 24 สิงหาคม 2565ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2565 (8 วันทำการ) ไม่ได้นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 158 ประกอบกับบทเฉพาะกาลมาตรา 264 ให้นับระยะเวลาต่อเนื่อง และยังได้กล่าวอีกว่า วาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ครบ 8 ปี

ถ้าเริ่มนับวันที่ 6 เมษายน 2560 ตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ครบ 8 ปี ในปี 2568 เริ่มนับ วันที่  9 มิถุนายน 2562 ตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ครบ  8 ปี ในปี 2570 ไม่ว่านับครบ 8 ปีในปี 2568หรือ นับครบ 8 ปี ในปี 2570 ดังกล่าว ล้วนแล้วแต่เป็นการตีความในอนาคต หรือตีความล่วงหน้า ศาลยุติธรรม (ศาลชั้นต้น ขั้นอุทธรณ์ ชั้นฎีกา) ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาฎีกาที่ 4974/2553 ฎีกา ดังกล่าวห้ามโจทก์ฟ้องคดีล่วงหน้า หรือฟ้องในอนาคต เป็นฟ้องไม่ชอบด้วยกฎหมาย ป.วิ อาญา มาตรา 158(5) ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบสุขเรียบร้อยของประชาชน

ฉันใดก็ฉันนั้นเช่นกัน” ก็ห้ามตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตีความล่วงหน้า หรือตีความในอนาคต เมื่อเป็นเช่นนี้ พลเอกประยุทธจันทร์ โอชา นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปี วันที่ 23 สิงหาคม 2565 ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 158 ประกอบกับบทเฉพาะการมาตรา264 ให้นับระยะเวลาต่อเนื่อง ถ้านับครบ 8 ปี ในปี 2568 หรือ ถ้านับครบ 8 ปี ในปี 2570 เป็นการตีความล่วงหน้า ปัญหาดังกล่าว เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบสุขเรียบร้อยของประชาชน กฎหมายต้องแก้ด้วยกฎหมาย คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4974/2553 เป็นทางออก การนำเสนอข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ยังไม่ถือ ว่าเป็นการก้าวล่วงอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ เพียงแต่เป็นการนำเสนอข้อกฎหมาย ไม่มีเจตนาก้าวล่วงอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ นายจำรัส กล่าวในที่สุด

ทิพกร  หวานอ่อน -ภาพ/ข่าว   ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดอำนาจเจริญ  รายงาน