นายไตรยฤทธิ์  เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย ร.ต.อ สุรวุฒิ  รังไสย์ ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ วิเศษเขตการณ์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการพิเศษ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เข้าตรวจค้นเป้าหมายโรงงานสกัดปาล์มน้ำมัน ชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมัน จ.กระบี่ สาขาคลองท่อม พร้อมอายัดทรัพย์สิน ในคดีพิเศษที่ 215/2565 กรณี การทุจริตและยักยอกทรัพย์ในชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด ซึ่งทำให้มีผู้ที่ได้รับผลกระทบประมาณ 20,000 ครัวเรือน มีมูลค่าความเสียหายโดยรวมจำนวนไม่กว่า 1,000 ล้านบาท

สืบเนื่องจากที่ นายสมศักดิ์  เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 กรณีชุมนุมสหกรณ์เกิดปัญหาการบริหารจัดการชุมนุม ผู้บริหารมีการทุจริตและส่งผลให้ชุมนุมสหกรณ์เสียหายต่อสมาชิกเป็นวงกว้าง จึงได้มอบนโยบายให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณานำเรื่องกรณีการทุจริตดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการคดีพิเศษรับเป็นคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และมอบหมายให้กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ดำเนินการสืบสวนสอบสวนมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 2 สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด นายสุนทรา พลไตร ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมายฟอกเงิน สำนักงาน ป.ป.ง. เป็นที่ปรึกษาคดีพิเศษ มีการบูรณาการร่วมกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ และสหกรณ์จังหวัดกระบี่

กระทั่งพบพฤติการณ์ กรรมการ ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ของชุมนุมสหกรณ์ฯ ซึ่งมีหน้าที่ในการบริหารกิจการของชุมนุมสหกรณ์ฯ หลายชุด มีการกระทำผิดโดยไม่ดูแลหรือจัดการทรัพย์สินของชุมนุมสหกรณ์ฯ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของสหกรณ์หรือผลประโยชน์ของสมาชิก และมีการดำเนินการขายโรงงานสาขาคลองท่อม ซึ่งเป็นทรัพย์สินของชุมนุมสหกรณ์ฯ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย บริหารงานไม่ซื่อสัตย์สุจริต และไม่ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของสหกรณ์ฯ มีการจัดทำสัญญาซื้อขายเอื้อประโยชน์แก่ บริษัท กระบี่วิเศษน้ำมันปาล์ม จำกัดทำให้ชุมนุมสหกรณ์ฯ เสียประโยชน์อย่างชัดแจ้ง ผู้บริหารของชุมนุมสหกรณ์ฯ บางรายเป็นผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของบริษัท กระบี่วิเศษน้ำมันปาล์ม จำกัด มีสถานะเกี่ยวกับข้องกับผลประโยชน์ในนามถูกต้อง มีการทำหนังสือสัญญาซื้อขายชัดเจนและมีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่ายรับรู้ โดยมีการซื้อขายในวงเงิน 320 ล้าน สัญญา 12 ปี ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นจนทำให้ชุมนุมฯขาดทุน เป็นเงิน กว่า 1 พันล้านบาท เกิดมาก่อนที่ บ.วิเศษน้ำมันปาล์ม จะเข้ามาซื้อโรงงานฯซึ่งทางผู้บริหาร บ.วิเศษปาล์ม ไม่ได้คดโกง หรือทุจริตการได้มาของโรงงานฯเชื่อว่าถูกกลั่นแกล้ง….

ภาพ-ข่าว ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง กระบี่/// รายงาน