ตำรวจ สภ.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่า มีคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ที่บริเวณ ม.7 บ้านคลองลาภใกล้ ต.ไทรทอง อ.คลองหาด จ.สระแก้ว จึงรายงานให้กับ พ.ต.อ.นิวัฒน์ชัย สุขธยารักษ์ ผกก.สภ.คลองหาด รับทราบ พร้อมกับสั่งการให้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.คลองหาด จัดชุดลงพื้นที่ติดตามคนร้ายดังกล่าวทันที โดยผู้เสียหาย แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า ถูกคนร้ายเป็นชาย 1 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ทำท่าทีมาขอชื้อของ ก่อนจะใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์ ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 1 เส้น ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป มุ่งหน้าบ้านน้อยทับยาง ต.ผ่านศึก อ. อรัญประเทศ เขตพื้นที่ สภ.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้ตำหนิรูปพรรณคนร้าย เบื้องต้น เป็นชายสูงประมาณ 160 ซม. รูปร่างอ้วนเตี้ย ใส่เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว สียีนต์ ใช้ผ้าปิดคลุมใบหน้าไว้ ส่วนยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุ เป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อคาวาซากิ ไม่ทราบสีและทะเบียน เอาเสื้อคลุมปิดบังถังน้ำมันไว้ ส่วนทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้ายไปได้รับการยื่นยันว่า เป็นทองคำรูปพรรณหนัก 2 บาท ซึ่งภายหลังชุดสืบสวนและชาวบ้านในพื้นที่ไล่ติดตาม และตั้งด่านสกัดคนร้ายรายดังกล่าว กระทั่ง สามารถจับตัวได้พร้อมของกลาง โดยใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นาย กิรัตติกรณ์ ก่อนจะควบคุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.คลองหาด โดยมี ร.ต.ท.เอกวุฒิ เพชรสมบัติ เป็นร้อยเวร สภ.คลองหาด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

นางสมเพียร สังคะ อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ใหญ่บ้าน ม.7 บ้านคลองลาภใกล้ ต.ไทรทอง ผู้เสียหาย ซึ่งที่บ้านเปิดเป็นร้านชำ เปิดเผยว่า คนร้ายเป็นคนรูปร่างอ้วนเตี้ย ล่ำ ๆ สวมหมวกกันน๊อคปิดบังใบหน้า ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าร้านเพื่อขอซื้อเบียร์ 1 กระป๋อง แล้วยื่นแบงค์ 100 บาทให้ ตนก็หยิบเงินมา หลังจากนั้นคนร้ายก็คว้าที่คอเสื้อของตนเอง แล้วผลักให้ล้มพร้อมกับเอามีดจี้คอและใช้ตีนเหยียบ ข่มขู่ว่า “ถอดทองมา ถอดทองมา อย่าร้องนะ อย่างร้องนะ มีดแทงนะ” เพื่อให้ถอดสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทให้ ตนก็บอกเดี๋ยวถอดให้ ยังไม่ทันจะได้ถอดเสร็จ มันก็ดึงกระชากสร้อยออกไปจากคอ แล้ววิ่งไปขึ้นรถขับหลบหนีไป

หลังจากคนร้ายหลบหนีไป ก็มีลูกค้าขับรถปิกอัพมาจอดที่หน้าร้าย จะซื้อของ จึงบอกเขาว่า “ช่วยตามให้หน่อย เค้าปล้นทองไป ปล้นทองไป” เขาก็เลยขับรถปิกอัพสีขาว ไล่ตามไปตามเส้นทางมุ่งหน้าอรัญประเทศ จนสามารถจับตัวได้” นางสมเพียร ผู้เสียหายกล่าว…

ภาพ-ข่าว นายยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว