พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ได้สั่งการให้ พ.อ.อนุพงศ์ มูลบรรจบ ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่13 จัดกำลังพลกองร้อยทหารพรานที่1305 ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก. สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภออรัญประเทศ โดยนายสำรวย แก้วประสิทธิ์ กำนันตำบลป่าไร่ และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการข่าว(ชปข) กกล. บูรพา สนธิกำลังร่วมกันออกลาดตระเวนเข้มป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบนำรถ จยย.จากฝั่งไทยออกไปส่งขายฝั่งกัมพูชา ตามช่องทางธรรมชาติ บริเวณชายแดน ต.ป่าไร่ อ. อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบขนย้ายรถจักรยานยนต์โดยผิดกฎหมายออกไปประเทศกัมพูชา บริเวณชายแดน ต.ป่าไร่

ต่อมาขณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมฯ ได้ตรวจพบรถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ สีขาว ทะเบียน ลำปาง ต้องสงสัยจอดอยู่ในสวนปาล์ม หลังโกดัง ม.8 ต. ป่าไร่ฯห่างถนนลูกรังสายบ้านป่าไร่ใหม่-ถนนศรีเพ็ญฯประมาณ 50 เมตรโดยพบว่ามีกลุ่มบุคคลกำลังขนย้ายรถ จยย.จำนวนหลายคันลงจากตู้ทึบรถคันดังกล่าว ห่างชายแดนกัมพูชาประมาณ 500 เมตร เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าปิดล้อม แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวคาดว่าเป็นชาวกัมพูชาประมาณ 5 คน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ต่างทิ้งรถ จยย.แล้วแยกย้ายกันวิ่งหลบหนีฝ่าความมืดกลับออกไปฝั่งกัมพูชา แต่เจ้าหน้าที่วิ่งไล่ติดตามและสามารถจับกุมไว้ได้ 1 คน ชื่อนายเนง เทีย อายุ 19 ปี ชาวกัมพูชา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารอนุญาตทำงานในประเทศไทยแต่อย่างใด

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวพบมีนายอนุพงศ์ อายุ 28 ปี อยู่หมู่ 2 ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง เป็นผู้ขับขี่ และเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบรถ จยย.จำนวน 8 คัน จอดทิ้งอยู่ห่างท้ายรถประมาณ 20 เมตร เป็นรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า สกูปปี้ จำนวน 5 คัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน, รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีเทา ทะเบียน กทม.1 คัน, รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า พีซีเอ็กซ์สีแดงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน และรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ ไอ สีดำส้ม ทะเบียน สกลนครอีก 1 คัน จึงควบคุมตัวนายอนุพงศ์ คนไทยผู้ขับขี่ และนายเนง เทีย ชาวเขมร พร้อมตรวจยึดของกลางทั้งหมดมาทำการสอบสวนที่ สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว

จากการสอบสวนเบื้องต้นนายอนุพงศ์ อ้างว่ารับจ้างนายทุนให้มาขนรถ จยย.ที่ชายแดน ต.ป่าไร่ เพื่อไปส่งที่ กทม.โดยได้ค่าจ้าง 10,000 บาท แต่นายเนง เทีย ชาวกัมพูชารับสารภาพว่าตนและพวกรวม 5 คนได้รับการว่าจ้างจากนายอนุพงศ์ ให้มาขนย้ายรถ จยย.ทั้ง 8 คัน บนรถตู้ทึบเพื่อนำข้ามเขตแดนออกไปฝั่งกัมพูชา โดยได้ค่าจ้างคนละ 200 บาท แต่พรรคพวกอีก 4 คนวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ออกไปฝั่งกัมพูชาได้ทันส่วนตนเองวิ่งไม่ทันจึงถูกจับกุมได้

จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงควบคุมทั้งหมดพร้อมของกลางส่งให้ พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ดำเนินคดี นายอนุพงศ์ และนายเนง เทีย ข้อหา “ร่วมกันพยายามนำรถ จยย.ออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร” และนายเนง เทีย ถูกตั้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าว(กัมพูชา) เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกคดีด้วย..

ภาพ-ข่าว นายยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว