นายสุทร และนางสมพร สาทะลี บ้านเลขที่ 125 หมู่ที่ 4 บ้านคำเกิด ตำบลกระจาย อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร สองสามีภรรยาอาชีพทำนาทำไร่ และทำการเกษตรทั่วไป เปิดบ้านรับจ้าง ฝึกสอนควายไถนา ไถพรวนดินทำไร่ ให้กับชาวบ้านในชุมชน และชุมชนใกล้เคียง ที่ชอบเลี้ยงควาย แต่ไม่สามารถไถนาได้ เพราะเป็นควายของคนรุ่นใหม่ ที่หันไปใช้เครื่องจักรทำไร่ไถนา จึงไม่สามารถที่จะใช้ควายไถนาไถไร่ได้ พอราคาน้ำมันแพง ปุ๋ยเคมีก็แพง จึงส่งผลทำให้การลงทุนทำการเกษตรสูงขึ้น
หลายคนเริ่มหันมาหาวิธีประหยัดลดรายจ่าย ลดต้นทุนการผลผลิตลง ด้วยการเริ่มหันมาใช้ควายเข้ามาช่วยไถพรวนดิน ทำการเกษตรปลูกพืช แทนการใช้ควายเหล็ก ที่มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นถึง 300 บาท/ต่อไร่ ในการจ้างรถไถพรวนดิน จึงเป็นสาเหตุให้สองสามีภรรยา หันมาใช้แรงควายที่เลี้ยงไว้ไถนาไถไร่ และยังเปิดรับสอนสัตว์เลี้ยง ก็คือควายให้เพื่อนบ้านในชุมชนด้วย โดยในฤดูแล้งสองสามีภรรยา ได้ใช้พื้นที่ไร่ปลูกมันสำปะหลัง เป็นโรงเรียนสอนควายไถนา ไถพรวนดิน ส่วนค่าจ้างฝึกควายไถนาพรวนดินนั้น แล้วแต่เจ้าของควายและผู้ฝึกสอนจะตกลงกันในการฝึกสอนควายแต่ละตัวจะใช้เวลาฝึกตัวละประมาณ 7 วัน จนชำนาญเจ้าของควายจะรับควายกลับบ้านไปไถนาพรวนดินได้เลย
นายสุทร กล่าวว่า เพื่อเป็นการลดรายจ่ายชาวบ้านเริ่มหันมาฝึกควายไถนาพรวนดิน ช่วยงานด้านการเกษตรแทนการใช้ควายเหล็ก ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่แพงขึ้น ภายหลังน้ำมันมีราคาแพง เบื้อต้นตนและภรรยา ได้นำเจ้าดอกคูณ ควายเพศเมีย อายุ 2 ปีกว่า ที่ตนเลี้ยงเอาไว้มาทำการฝึก ให้ไถนา พรวนดินให้คล่องตัว เพื่อเข้ามาช่วยงานเกษตรในไร่มันสำปะหลัง และไร่ปลูกหญ้า ที่มีอยู่เพื่อเป็นการลดรายจ่าย ลดการว่าจ้างควายเหล็กที่มีราคาค่าจ้างที่แพงเข้ามาช่วยงาน ด้านการเกษตรดังกล่าว ที่ครอบครัวทำอยู่ ที่สำคัญยังเป็นการอนุรักษ์การทำการเกษตรแบบดั้งเดิม ที่ใช้ควายเข้ามาช่วยงานไถพรวนดิน โดยไม่ได้ใช้เครื่องจักรในยุคสมัยใหม่ ซึ่งตอนนี้ได้มีเพื่อนบ้านนำควายที่เลี้ยงไว้เข้ามารับการฝึกไถพรวนดินจากตนและภรรยากันบ้างแล้ว ส่วนราคาค่าจ้างก็แล้วแต่จะตกลงกันโดย เริ่มต้นที่ 1,000 บาท ต่อการฝึก 1 ตัว ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการฝึกสอนอยากหรือง่าย สำหรับควายแต่ละตัว การฝึกสอนก็จะฝึกการฟังเสียงคำสั่ง ก่อนจะนำเข้าสวมแอกชุดคันไถ จะทำการฝึกทุกวันเช้า-เย็น ใช้เวลาในการฝึกประมาณ ครั้งละ 30-45 นาทีก็พอ
ข่าว-ประกาศ ศรีสมบูรณ์ รายงานจากจังหวัดยโสธร