จากการที่ พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ ขวัญศรี ผกก.สภ.กงหรา ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.ณรงค์ ฮกปาน รอง สว.(สอบสวน) สภ.กงหรา พร้อมพวก ได้นำภาพถ่ายของผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งที่เป็นคู่อริกันมาให้ นายพงศ์พัทธ์ อายุ 20 ปี มาดูหน้าและชี้ตัวใน รพ.พัทลุง เนื่องจากในตอนคืนก่อเหตุนั้นนายพงศ์พัทธ์ ฯได้เห็นใบหน้าของคนร้ายและจำได้อย่างแม่นยำในช่วงที่คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มใส่ตนเองและพวก แต่ตนเองแกล้งนอนตายจึงรอดชีวิตอย่างหวุดหวิดนั้น ทางด้านพงศ์พัทธ์ฯได้ชี้ภาพถ่ายผู้ต้องสงสัยได้อย่างถูกต้อง และทางพนักงานสอบสวนก็ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และประจักษ์พยานเพื่อยื่นขอหมายจับต่อศาลจังหวัดพัทลุง ในเวลาต่อมา
ในขณะเดียวกันทางด้าน พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ ขวัญศรี ผกก.สภ.กงหรา และ พ.ต.อ.ยศวรรนธ์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง และชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายตำรวจที่เกี่ยวข้องของ สภ.กงหรา ก็ได้นำกลุ่มผู้ต้องสงสัย จำนวน 3 คนมาสอบปากคำที่ สภ.กงหรา โดย 1 ใน 3 เป็นนายธีรยุทธ หรือ อายุ 21 ปี ซึ่งมีอาชีพรับจ้าง ซึ่งถูกนายพงศ์พัทธ์ ฯชี้ภาพถ่ายกับ ร.ต.อ.ณรงค์ ฮกปาน รอง สว.สอบสวน สภ.กงหรา ขณะนอนรักษาตัวใน รพ.พัทลุง แต่นายธีรยุทธ หรือตอง ภู่ อายุ 21 ปี ผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา
ต่อมาในตอนบ่ายวันเดียวกันศาลจังหวัดพัทลุงได้ออกหมายจับ ที่ จ.106/2565 ลงวันที่ 2 เมษายน 2565 ให้จับกุมตัวนายธีรยุทธ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดฐานฆ่า และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนแบบที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้พาอาวุธปืนติดตัวและโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ในขณะที่นายธีรยุทธ ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดกองพิสูจน์หลักฐานพัทลุง เพื่อเข้าเก็บดีเอ็นเอ พร้อมเขม่าดินปืนจากนายธีรยุทธ ก่อนควบคุมตัวไปส่งให้ ร.ต.อ.ณรงค์ ฮกปาน รอง สว.(สอบสวน) สภ.กงหรา ไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกันทาง พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ ขวัญศรี ผกก.สภ.กงหรา ก็ได้มอบหมายให้นายตำรวจที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเส้นทางการเดินทางการก่อเหตุร้ายของผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว เพื่อนำไปประกอบคดี ในขณะที่ทางด้าน พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ก็ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ ขวัญศรี ผกก.สภ.กงหรา และ พ.ต.อ.ยศวรรนธ์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง ได้ประสานการปฏิบัติงานกับตำรวจทุกฝ่ายในการขยายผลการคลี่คลายคดี เพื่อนำผู้ต้องหามาลงโทษตามกฎหมายบ้านเมือง รวมทั้งเน้นย้ำให้ให้มีการตรวจค้นอาวุธปืนสงครามที่ใช้ในการก่อเหตุร้ายในครั้งนี้ให้จงได้
ส่วนญาติผู้ต้องหาที่ตำรวจออกหมาจับ ระบุว่าตอนเกิดเหตุนั้นนายธีรยุทธ ยังพักอาศัยอยู่ที่บ้านยังไม่ไปไหน โดยกลับเข้าบ้านมาตั้งแต่ช่วง 17.30 น. ของเมื่อวาน โดยมีภาพวงจรปิดบันทึกไว้ในขณะเดินทางเข้าบ้าน จึงเชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นผู้บริสุทธิและถูกใส่ร้าย
ภาพ-ข่าว ไสว รุยันต์ จ.พัทลุง