จากกรณีรังนก บนหมู่เกาะสี่เกาะห้า ตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ถูกคนร้ายเข้าลักขโมยช่วงเจ้าหน้าที่ของรัฐ กำลังอาสาสมัครรักษาดินแดน ( อส.) เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ อบจ.พัทลุง จำนวน 135 ราย ผลัดเปลี่ยนกำลังลงเฝ้าเกาะรังนกครั้งละประมาณ 96 คน ต่อ 1 สัปดาห์ เฝ้ารังนกเนื่องจากบริษัทผู้ได้รับสัมปทานหมดสัญญาและอยู่ระหว่างการหาบริษัทรับสัมปทานใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้รับคำสั่งอนุมัติลงเฝ้าเกาะรังนก จากนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงในฐานะประธานกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง ก่อนเจ้าหน้าที่ของรัฐลงเฝ้าเกาะนั้นทางบริษัทพร้อมเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับมอบเกาะจากบริษัท ลงตรวจถ้ำรังนกปรากฏว่าว่าแต่ละมีรังนกอยู่สมบรูณ์ทุกถ้ำ แต่หลังจากเจ้าหน้าที่ของรัฐชุดเฝ้าเกาะลงปฏิบัติหน้าที่ก็มีรังนกสูญหาย
สำหรับรังนกที่ถูกคนร้ายเข้าลักขโมยอย่างมโหฬารกวาดเรียบทุกถ้ำอยู่ในช่วง 13 สิงหาคม 2564 – 9 กันยายน 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่มีบริษัทได้รับสัมปทาน และก่อนที่บริษัทที่ได้รับสัมปทานรับมอบเกาะรังนกฯ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.) และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. พร้อมคณะ ลงลุยคดีรังนกจนสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน วัตถุพยาน นำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาได้ 6 คน ในล๊อตแรก ประกอบด้วย ชาวบ้าน 4 ราย และ อส.2 ราย สอบสวนขยายผลตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น และต่อมาศาลจังหวัดพัทลุงได้ให้ประกันตัวผู้ต้องหา อส.ทั้ง 2 คน และให้ประกันผู้ต้องหา 4 คนที่เป็นชาวบ้านโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์แต่อย่างใด
และล่าสุดตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนคดีรังนก ได้ขอออกหมายจับผู้ต้องหาคดีรังนกเพิ่มเติมอีกจำนวน 11 ราย ซึ่งเป็นชาวจังหวัดชุมพรส่วนหนึ่ง และเป็นอดีต อส.จังหวัดพัทลุง อีกจำนวนหนึ่ง ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาที่ออกหมายจับล่าสุดและสามารถจับผู้ต้องหาได้แล้วทั้งหมด
ซึ่งในจำนวนผู้ต้องหารอบ 2 มีทั้งผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน และอส.ชุดเฝ้าเกาะรังนก โดยทั้งหมดทำหน้าที่ลำเลียงรังนกที่ขโมยจากเกาะนำมาส่งยังฝั่ง เพื่อให้ ผู้บงการอีกทอดหนึ่งนำไปขาย ขณะที่ผู้ต้องหา 4 ราย ที่เป็นชาวจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจังหวัดชุมพร ได้เข้าควบคุมตัวตามหมายศาลจังหวัดพัทลุง ก่อนควบคุมตัวทั้ง4 ราย ขึ้นเครื่องบินตำรวจ จากจังหวัดชุมพร มายังสนามบินหาดใหญ่ เพื่อ นำตัวสอบปากคำ โดย 1 ในผู้ต้องหา ระบุว่า การเข้าไปขโมยรังนกในหมู่เกาะสี่เกาะห้า พัทลุง เจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าเกาะที่เป็นเพื่อนกันได้โทรประสานให้เข้าเก็บรังนก โดยได้ส่วนแบ่ง 30 /70 ซึ่ง70 เปอร์เซ็นต์นั้นจะเป็นส่วนของเจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าเกาะ โดยจริงชาวบ้านไม่สามารถเข้าไปยังเกาะรังนกได้ แต่ ทางเจ้าหน้าที่ ชุดเฝ้าเกาะรังนกเปิดทางให้เข้าไปขโมยโดยแบ่งผลประโยชน์ร่วมกัน ส่วนที่มีการนำเสนอข่าวว่ามีการเผาถ้ำรังนกนั้น จริงๆแล้วไม่ใช่ เป็นเพียงการก่อไฟเพื่อต้มน้ำดื่มกาแฟเท่านั้น ส่วนการหุงอาหารในถ้ำจะใช้เก๊สกระป๋องเท่านั้น
ส่วน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์, หักพาล ผช.ผบ.ตร พล.ต.ตวัลลพ จำนงค์อาษา รอง ผบช.ภ.9. พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9 9 พล.ต.ต.มานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง และคณะ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมกลุ่มคนร้ายในคดีรังนก ซึ่งทางด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาในครั้งนี้เป็นกลุ่มผู้ต้องหาแถวที่ 1 จากนี้ไปจะเป็นการจับกุมกลุ่มผุ้ต้องหาในแถวที่ 2 และแถวที่ 3 ซึ่งเป็นทั้งคนสั่งการ และผู้อยู่เบื้องหลัง คดีนี้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องกับคดีรังนกไปแล้วเกือบ 200 ราย ใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้จะต้องจับทุกราย ตำรวจจะต้องทำกฎหมายให้เป็นคนกฎหมาย เงินภาษีของรังนกจะต้องเป็นเงินเข้าสู่แผ่นดินของจังหวัดพัทลุง จะให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสัมปทานรังนกนำทรัพยากรธรรมชาติของแผ่นดินไปแสวงหาผลประโยชน์ไม่ได้โดยเด็ดขาด ตำรวจจะต้องทำเรื่องนี้ให้เป็นที่ปรากฎชัดเจนว่าใครเป็นผู้มาเกี่ยวข้องบ้าง ตนเป็นคนใต้จะมิให้ทรัพย์ของแผ่นดินตกไปเป็นกลุ่มอิทธิพล กลุ่มอำนาจมืดที่เห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัวจนลืมนึกถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ บ้านเมือง และไร้คุณธรรม จริยธรรม
อย่างไรก็ตามในคดีดังกล่าวนั้นจะต้องมีการขยายผลการสืบสวนสอบสวนอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้ตนได้นำคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จ.สงขลา เข้าไปตรวจถ้ำรังนก จำนวน 5 ถ้ำ เพื่อเก็บหลักฐานสำคัญได้เป็นจำนวนมาก สำหรับการลักรังนกนั้นมีมานานแล้วจากนี้ไปตนจะขุดรากถอนโคนกลุ่มลักรังนกให้หมดไปจากพัทลุงเสียที จะไม่ยอมให้ผู้เห็นแก่ได้เข้าไปลักรังนกในช่วงว่างเว้นการรับสัมปทานโดยเด็ดขาด ขอให้มั่นใจว่าผู้อยู่เบื้องหลังทั้งแถว 2 แถว 3 จะไม่หลุดเอื้อมมือของกฎหมายอย่างแน่นอน ซึ่งในขณะนี้ ตำรวจสืบทราบแล้วว่าขบวนการลักรังนกพัทลุงมีการเชื่อมโยงระหว่างใครกับใคร ใครเป็นผู้สั่งการ ใครเป็นผู้บงการ เส้นทางการเงินเป็นไปแบบไหนบ้าง ขอเวลาให้ตำรวจสักระยะหนึ่งรับรองได้ว่างานนี้ชาวพัทลุงจะไม่ผิดหวังการทำงานของตำรวจอย่างแน่นอน
ภาพ-ข่าว ไสว รุยันต์ จ.พัทลุง