ที่หอประชุมโรงเรียนดีบุกพังงาวิทยายน อ.เมืองพังงา นายเถลิงศักดิ์ นุชประหาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานเปิดงานวันประวัติศาสตร์ไทย ประจำปี 2565 เพื่อรำลึกถึงสมเด็จพระบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย  โดยมีนางสาวฆอนิมะฮ์ พูลสุข ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพังงา ภูเก็ต ระนอง พร้อมด้วย นางสาวอุไรวรรณ แดงงาม วัฒนธรรมจังหวัดพังงาคณะกรรมการสถานศึกษา คณะกรรมการสมาคมศิษย์เก่า คณะครู–อาจารย์ ผู้ปกครองและนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมและร่วมรับชมละครประวัติศาสตร์เรื่อง“ตำนานรักเขานางหงส์”นิทานปรัมปราคู่บ้านคู่เมืองพังงา

 นส.อรสา เสรีวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนดีบุกพังงาวิทยายน กล่าวว่า การจัดงานวันประวัติศาสตร์ไทย เป็นกิจกรรมสำคัญที่โรงเรียนได้จัดต่อเนื่องกันมาเป็นประจำทุกปี เพื่อรำลึกสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ “พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย” โดยกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม และนักเรียนมัธยมศึกษาชั้นปีที่6  จัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อเป็นการเผยแพร่ประวัติและผลงานพระบิดาประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งพระองค์ทรงมีบทบาทในการพัฒนาประเทศให้ได้รับความเจริญก้าวหน้า ทรงพัฒนางานด้านการปกครอง การศึกษา งานด้านสาธารณสุข เมื่อครั้งที่พระองค์ดำรงตำแหน่ง นายกราชบัณฑิตยสภา ทรงอนุรักษ์และชำระหนังสือสำคัญทางประวัติศาสตร์ และทรงนิพนธ์หนังสือที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ไว้จำนวนมากกว่า 650 เรื่อง ทรงพระปรีชาสามารถและชำนาญงานทางด้านประวัติศาสตร์ พระองค์จึงเป็นบุคคลไทยพระองค์แรก ที่ได้รับการยกย่องจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO)ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก เมื่อปี พ.ศ. 2505 และทรงได้รับการถวายพระนามว่า “พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย”

 ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับวิธีการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ รู้จักคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการประเมินค่า นำเนื้อหาทางประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของท้องถิ่น มาบูรณาการจัดการเรียนการสอนผ่านกิจกรรมการแสดงละคร และให้นักเรียนได้แสดงความสามารถตามความถนัด เป็นการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning มีการบูรณาการกับกลุ่มสาระอื่นๆ รู้จักการทำงานเป็นทีม เรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และเกิดความรักความภูมิใจในบ้านเกิด

 “ตำนานรักเขานางหงส์” เป็นเรื่องเล่าตามตำนานมาว่า กาลครั้งหนึ่ง มีชายสองคนชื่อนายเต่าและนายเฒ่าเป็นเพื่อนรักใคร่ชอบพอกันมาแต่อายุต่างกันคือนายเต่ามีอายุมากกว่านายเฒ่าหลายปี นายเต่ามีลูกสาวสวย ชื่อว่า “นางหงส์” เฒ่าเป็นคนรูปหล่อและนิสัยดีไม่ได้เฒ่าแก่ตามชื่อเลยนายเต่าเห็นว่าเป็น คนมี หลักฐานมั่นคง จึงตัดสินใจยกลูกสาวให้ เพราะลูกสาวจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาเสียที พอถึงวันฤกษ์งามยามดีนายเฒ่าก็ยกขบวนขันหมากมายังบ้านนายเต่า ทางบ้านนายเต่าก็ เตรียมจัดทำสำรับกับข้าวอาหารคาวหวานต่างๆ เพื่อเลี้ยงแขกที่จะมาในงาน เมื่อนางหงส์ได้ยินว่านายเฒ่าจะมาสู่ขอตัวงเอง นางก็คิดว่า นายเฒ่าคงเป็นคนแก่เฒ่าไม่เจียมตัว นางทั้งโกรธ ทั้งอายและเสียใจ จึงวิ่งเข้าห้องปิดประตูแล้วร้องด่านายเฒ่าต่างๆ นานา ประกาศว่านางจะไม่ยอมแต่งงานกับนายเฒ่าเด็ดขาด นายเฒ่าโกรธจัดจึงเหวี่ยงขันหมากทิ้ง จนกลายเป็นเขาขันหมาก นายเต่าโมโหลูกสาว จึงเตะกระทะคว่ำลงไป กลายเป็นเขา กระทะคว่ำ ในปัจจุบัน หลายวันต่อมา นางหงส์ไปเที่ยวในงานแห่งหนึ่ง นางแอบเห็นนายเฒ่าเข้าจึงตกตลึงเพราะนายเฒ่ายังเป็นหนุ่มรูปหล่อ ไม่แก่เหมือนชื่อ นางเสียใจจึงกลับมาจัดข้าวตอกดอกไม้เดินทางไปขอขมาต่อนายเฒ่า พอพบหน้านายเฒ่านางก็ตรงไปกราบขอขมา และขอคืนดีแล้วบอกว่ายินดีจะแต่งงานด้วย ฝ่ายนายเฒ่ายังไม่หายโกรธพอเห็นหน้านางหงส์มาขอขมาจึงตวาดและขว้างปาข้าวตอกดอกไม้ไปต่อหน้า นางหงส์รู้สึกอับอายอย่างมาก จึงวิ่งกลับบ้านวิ่งพลางร้องไห้ไปพลาง จนเหนื่อยแค้นแสนแค้น นางกระเสือกกระสน ล้มลงสิ้นใจตายอยู่กลางป่านอนตะแคงกลายเป็น เขานางหงส์ ซึ่งปัจจุบันเป็นเทือกเขาที่สูงชันและสลับชับซ้อน กั้นระหว่างเขตอำเภอเมืองพังงากับอำเภอทับปุดจนตราบเท่าทุกวันนี้

ภาพ-ข่าว เกศ จ.พังงา