ที่ริมถนนสายนบปริง-น้ำตกสองแพรก บริเวณบ้านโรงกลวง ม.8 ต.นบปริง อ.เมืองพังงา มีร้านกาแฟเล็กๆ สไตล์มินิมอล ชื่อร้าน SEED CAFÉ ถึงแม้ว่าจะเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ตกแต่งแบบเรียบง่าย แต่พบว่าบรรยากาศวิวทิวทัศน์ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว โดยร้านอยู่ในพื้นที่สีเขียวของต้นไม้และพืชผักพื้นบ้าน ทางทิศตะวันออกของร้านเป็นวิวที่มองผ่านสวนปาล์มน้ำมันไกลไป จะเห็นทิวเขาลูกหนึ่งที่มองดูคล้ายกับผู้หญิงนอนตะแคงยาวอยู่ในแนวป่าไม้ นั่นก็คือ “เขานางหงส์” ที่เป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของจังหวัดพังงา ที่เรื่องเล่านิทานพื้นบ้านเรื่องความรักที่ไม่สมหวังของนางหงส์กับนายเฒ่า ขณะที่บรรยากาศในช่วงเช้าๆจะมีภาพของทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นมากจากแนวภูเขาประกอบกันเป็นภาพที่สวยงาม หากใครได้มาได้จิบกาแฟตอนเช้าชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นเหมือนกับเติมเต็มความสดชื่นให้กับชีวิตได้เป็นอย่างดี

นายศักดา เครือทอง อายุ 45 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า ตนเองและแฟนเป็นชาวจังหวัดพังงา เมื่อก่อนตนเองทำงานเป็นช่างภาพอิสระ รับงานถ่ายภาพฟรีแลนซ์ทั่วไปในจังหวัดภูเก็ต ส่วนแฟนทำงานโรงแรม ซึ่งทำมานานหลายปี จนรู้สึกเบื่อกับการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ ประกอบกับครอบครัวแฟนมีที่ดินอยู่ในพื้นที่ทางขึ้นน้ำตกสองแพรก ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางการผจญภัยชื่อดังของจังหวัดพังงา เมื่อมาดูโลเกชั่นแล้วก็ชอบเป็นอย่างมาก จึงตกลงใจกันทิ้งงานในจังหวัดภูเก็ต กลับมาบ้านเกิด มาพัฒนาพื้นที่ทำร้านกาแฟเล็กๆ ปลูกพืชผักสวนครัว  โดยทางร้านได้จำหน่ายกาแฟสด หลากหลายเมนู ที่มีรสชาติเข้มข้น กลมกล่อม  ขนม เบเกอรี่ ก็ทำเองในครอบครัว และยังมีอาหารตามสั่ง ไว้คอยบริการ แถมด้วยบริการเต้นท์จุดกางเต้นท์ที่พักค้างคืน ไว้ให้คนที่อยากมาพักค้างคืน เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกในตอนเช้า สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

นิทานตำนานเขานางหงส์ มีเรื่องเล่าต่อๆกันมาตั้งแต่โบราณว่า มีชาย 2 คน เป็นเพื่อนรักกันคนหนึ่ง ชื่อเฒ่า อยู่บ้านทับปุด อำเภอทัปปุด จังหวัดพังงา อีกคนหนึ่งชื่อ เต่า อยู่ที่เมืองพังงา นายเต่ามีลูกสาวสวยมากชื่อ นางหงส์ ไม่ยอมแต่งงานกับชายใด ต่อมานายเฒ่า มาสู่ขอจากนายเต่า นายเต่าเห็นว่านายเฒ่าเป็นคนดี รูปร่างหน้าตาก็หล่อเหลาก็ยกลูกสาวให้ พอถึงวันดีนายเฒ่าก็ยกขันหมากแห่กันมาอย่างมโหฬารเดินทางมาจากทับปุดมายังพังงา นายเต่าก็จัดการหุงหาอาหาร ฝ่ายนางหงส์เห็นขบวนขันหมากมาสอบถามจนรู้ว่านายเฒ่าจะมาแต่งงานกับตนก็โกรธแค้นว่าแก่เฒ่าแล้วยังไม่เจียมตัว เพราะนางคิดว่าเฒ่า หมายถึงคนเฒ่าคนแก่ จึงตะโกนด่าต่าง ๆ นานาไม่ยอมแต่งงานด้วย

นายเฒ่าก็ทั้งโกรธทั้งอายกับเหวี่ยงขันหมากทิ้ง เวลาผ่านมานางหงส์ ได้ไปเที่ยวงานแห่งหนึ่ง ได้แอบเห็นนายเฒ่าเข้าก็ตกตะลึงเพราะเป็นคนหนุ่มรูปหล่อ นางหงส์นึกเสียดายรีบกลับบ้านจัดพานดอกไม้ธูปเทียนเดินทางไปขอขมาลาโทษต่อนายเฒ่าทันที เมื่อไปถึงก็รีบกราบขอขมาและบอกว่าจะยินดีแต่งงานด้วย นายเฒ่ากลับตวาดด่าต่าง ๆ นานาและขว้างพานดอกไม้ทิ้ง นางหงส์ได้รับความอับอายอย่างยิ่ง จึงวิ่งกลับบ้านด้วยความแค้นสุดขีดจึงขาดใจตายในระหว่างทาง จากนั้นร่างของนางหงส์กลายเป็น “เขานางหงส์” กั้นเขตแดนระหว่างอำเภอเมืองพังงากับทับปุดมาจนถึงทุกวันนี้ ฝ่ายนายเฒ่าพอทราบข่าวนี้ก็เสียใจเดินทางไปทรุดนั่งเหม่อมองทะเลจนขาดใจตาย ร่างของนายเฒ่าก็กลายเป็น “เขาเฒ่า” อยู่ชายทะเลในต.บางเตย อ.เมืองพังงา

ภาพ-ข่าว เกศ จ.พังงา