จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “ทนายคู่ใจ” โพสต์คลิปวงจรปิดเป็นภาพขณะชายฉกรรจ์ 3-4 คน ทำการรื้อบ้าน พร้อมข้อความระบุว่า “#ธนาคารยึดบ้านผิดหลัง ทางเพจทนายคู่ใจได้รับเรื่องร้องเรียนสอบถามมาจากแฟนเพจ คุณกาญจนา ร้องกับทางเพจทนายคู่ใจเข้ามาว่า ตนมีบ้านอยู่ที่หมู่บ้าน วนาสิริ พาร์ควิวล์ ปทุมธานี บ้านเลขที่ 99/38 เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา มีผู้รับเหมาเข้ามารื้อทรัพย์สินภายในบ้านของตนออกไปจนหมด เหลือแต่บ้านโล่งๆ บริเวณภายนอกก็ตัดต้นไม้ รื้อกันสาด ยกสิ่งของออกไปจนหมด และติดป้ายประกาศทรัพย์สินของธนาคารห้ามบุกรุก ความคืบหน้า

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุภายในหมู่บ้านวนาสิริ พาร์ควิวล์ ต.คลองพระอุดม อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี  ที่บ้านเลขที่99/38 ซอยที่3ของหมู่บ้านพบว่า บ้านหลังดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวบริเวณรอบพื้นที่บ้านและตัวบ้านถูกเก็บทำความสะอาดตัดต้นไม้และรีโนเวทใหม่ทั้งหมด จนมองดูโล่ง

นางวรสรวง สุขารมย์ อายุ57ปี เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามและเป็นเจ้าของคลิปกล้องวงจรปิด เปิดเผยว่า ตนเองพบเห็นเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินมาติดป้ายและแจ้งว่าบ้านหลังนี้ถูกยึดห้ามบุกรุกโดยเด็ดขาด หากบุกรุกจะถูกดำเนินคดี ตนเองจึงเกิดความสงสัยทำไมบ้านเพื่อนบ้านถึงโดยยึดทั้งที่น้ำไฟยังไม่ถูกตัด กระทั่งผ่านไป2-3วันก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาทำความสะอาด ถางหญ้าตัดกุญแจเข้าไปในบ้านและรีโนเวทบ้านใหม่หมด  ของภายในบ้านถูกนำมากองทิ้งไว้หน้าบ้านจนหมด ตนเองก็ยังไม่ได้คิดว่าผิดหลังกระทั่งตนเองมาตรอจสอบพบว่าป้ายที่เจ้าหน้าที่ธนาคารมาติดไว้กับตัวบ้านไม่ตรง โดยบ้านเลขที่ที่ธนาครติดป้ายนั้นห่างออกไปอีก3หลัง ตนเองจึงให้แฟนโทรไปหาเจ้าของบ้านและให้เดินทางมาตรวจสอบถึงรู้ว่าเป็นการเข้ายึดบ้านผิดหลัง ซึ่งเจ้าของบ้านก็ได้ขอภาพจากกล้องวงจรปิดไปเพื่อเป็นหลักฐาน โดยเจ้าหน้าที่ที่เข้ามานั้นมีหลายชุด มีทั้งทำในบ้าน ทำสวน มาทำอยู่ประมาณ1สัปดาห์ โดยบ้านหลังนี้ตนเองกับเจ้าของสนิทกันดีซึ่งเจ้าของบ้านจะอยู่อีกแห่งหนึ่ง โดยสิ่งของที่รื้อออกมาพบว่ามีทั้งพระเครื่อง อลูมิเนียมในบ้าน กิ่งไม้ต้นไม้

ด้าน น.ส.อรัญญา  ปานกรด อายุ 43ปีเจ้าของบ้านเลขที่99/44  เจ้าของบ้านที่มีปัญหากับธนาคาร เปิดเผยว่า ตนเองขับรถผ่านเห็นว่าบ้านก่อนถึงบ้านตนเองถูกแบงค์ติดป้ายห้ามบุกรุก ซึ่งบ้านตนเองก็มีปัญหาเหมือนกันจึงรีบไปติดต่อธนาคารเพื่อทำเรื่องที่มีปัญหาอยู่โดยมีการดูแลอย่างดีจากธนาคาร และไม่ทราบมาก่อนเลยว่ามีการติดป้ายยึดผิดบ้าน เพราะตนเองเพิ่งกลับมาอยู่ประมาณ1ปีเศษเพราะไปอยู่ที่ภาคใต้มา และกำลังจะเข้ามาตั้งหลักทำมาหากิน

   น.ส.กาญจนา   สร้อยสน เจ้าของบ้านเปิดเผยว่า หลังจากตนเองรับสายจากเพื่อนบ้านจึงรีบเดินทางมาดูถึงกับน้ำตาร่วงและไขกุญแจเข้าไปดู จากนั้นพี่เขยก็โทรไปหาที่คอลเซนเตอร์ของธนาคารโดยบ้านตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธนาคารออมสิน ตนเองตกใจตั้งแต่รับโทรศัพท์จากเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม  เมื่อตรวจสอบก็พบว่ามีทรัพย์สินหลายรายการหายไปเช่นพระเครื่อง โดยธนาคารแจ้งว่ามีการเก็บรักษาไว้ให้แต่ตนเองก็ยังไม่เห็นทรัพย์สิน โดยตนเองมีการแจ้งความไว้ที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว ปกติบ้านหลังนี้แฟนตนเองจะเข้ามาทำงานตอนกลางวันแต่นานๆจะมาค้างคืนสักครั้ง ส่วนตนเองและลูกจะอยู่บ้านอีกหลังเพราะต้องไปเรียนง่ายต่อการเดินทาง ประกอบกับช่วงหลังพ่อแม่ไม่สบายตนเองเลยไม่ค่อยได้เข้ามา ปกติพ่อ กับน้าเขยจะมาดูแลบ้านตัดหญ้าแต่พอพ่อไม่สบายก็ไม่ได้มาทำ ประมาณ3เดือนที่พ่อเดินไม่สะดวกประมาณ3เดือนจึงไม่ได้เดินทางมา หลังเกิดเหตุตนเองจึงไปร้องทนายความเพราะทางคู่กรณีเฉยชาตนเองเป็นคนติดต่อไปตลอด  ตนเองยากให้ธนาคารรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะนี่ก็ผ่านมา15-16วันแล้ว.

ภาพ-ข่าว ธัชนนท์ พิริยะกุลชัย จ.ปทุมธานี