วัดราษฎร์ประคองธรรม ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรีผู้สือข่าวลงพื้นที่ พบนาง อำไพ พลเยี่ยม อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นแม่นาย เกียรติศักดิ์ สุขใจ อายุ28 ปี (ผู้เสียชีวิต) นางอำไพ เล่าว่าลูกชายของตนที่เสียชีวิตเป็นคนโตเป็นเสาหลักหาเงินเลี้ยงครอบครัวซึ่งลูกชายของตนเดินทางจากจังหวัดอุดรธานี มาทำงานที่กรุงเทพอาชีพ รปภ.ซึ่งลูกชายของตนทำงานได้ประมาณ6เดือนได้และช่วงเช้าของวันที่ 27 ที่ผ่านมาหัวหน้างานลูกชายของตนได้โทรไปบอกตนว่านายเกียรติศักดิ์ สุขใจ อายุ28 ปี ลูกชายของตนเสียชีวิตเนืองจากลูกชายของตนตกบันใดที่ห้องเช่าและได้นำลูกชายของตนส่ง รพ.ตำรวจ ซึ่งตนพอรู้ข่าวด้วยความจนได้ยื้มเงินเพื่อนบ้านมา1000 บาทเพื่อเป็นค่าเดินทางจากจังหวัดอุดรธานี มาที่ รพ.ตำรวจซึ่งตนก็ไม่รู้จะทำยังใงเงินที่จะเป็นค่าใช้จ่ายนำศพลูกชายกับบ้านก็ไม่มีทางรพ.ตำรวจ ได้ช่วยค่าใช้จ่ายให้กับตนเป็นค่าเดินทางจำนวน1000 บาทและทางหัวหน้างานลูกชายของตนได้บอกกับตนว่าทางวัดราษฎร์ประคองธรรมรับเผาศพยากไรตนจึงได้โทรมาทีวัดราษฎร์ประคองธรรมเพื่อขอความอนุเคราะห์
จากทางวัดว่าอยากให้ทางวัดช่วยมารับศพลูกชายของตน ที่ รพ.ตำรวจ นำไปฌาปนกิจศพที่วัดราษฎร์ประคองธรรมเพราะตนไม่มีเงินเลยเหลือเงินติดตัว100บาทซึ่งทางวัดให้ความเมตตาขับรถมูลนิธิสยามนนทบุรีไปรับศพลูกชายของตนมาฌาปนกิจที่วัดราษฎร์ประคองธรรมให้ซึ่งในวันนี้ตนคงกลับไม่ทันต้องรอเก็บอัฐิลูกชายของตนกลับบ้านที่จังหวัดอุดรธานี และคืนนี้คงต้องขอนอนที่วัดก่อน1คืน
นายไพรัช สุดธูป ไวยาวัจกรวัดราษฎร์ประคองธรรม กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งเมื่อเช้าว่ามีผู้เสียชีวิตรายหนึ่ง เสียที่จังหวัด อ่างทอง ญาติมีติดปัญหาเรื่องการทำศพ และมีญาติบางส่วนอยู่แถวๆนี้ เราก็เลยจัดรถจากมูลนิธิสยามนนทบุรี หน้าจะเป็นคันที่ 18 ไปรับศพจาก จังหวัดอ่างทองและเดินทางมาที่วัดราษฎร์ประคองธรรม ได้นำเข้าโรงเผาศพเป็นที่เรียบร้อย ส่วนอีกรายน่าสงสาร มีคุณแม่ท่านหนึ่งอยู่ที่ภาคอิสานจังหวัดอุดรธานี ทราบข่าวว่าลูกชายเสียชีวิต สาเหตุตกบันไดลูกชายอายุแค่ 28 ปี เดินทางมากลางดึกซึ่งไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย มาถึงโรงบาลตำรวจเงินเหลือแค่ 100 บาท น่าสงสารมาก
ทางเราจึงได้ติดต่อเขาเพื่อที่จะช่วยเหลือเขาการที่จะรับศพกลับมา ต้องขอบคุณโรงบาลตำรวจที่เมตราอนุเคราะห์เรื่องเอกสาร หลังจากนั้นก็เดินทางมาที่วัด ซึ่งไม่สามารถลงรถได้เป็นลม ทางวัดจึงจัดข้าวปลาอาหารให้คุณยายท่านรับประทานก่อน ด้วยการเดินทางจากจังหวัด นนทบุรี ไป อุดร ค่อนข่างไกลไปกลางดึกลำบากแน่ๆ ตอนนี้พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้เตรียมที่นอน อาหารการกินไว้ให้เรียบร้อย ระหว่างรอเผาศพลูกชายจะให้พักผ่านที่นี้ก่อน และตอนเช้าตนจะเข้าไปกราบหลวงพ่อให้หลวงพ่อเมตราในเรื่องของค่าเดินทางที่จะกลับภูมิลำเนาบ้านเกิดที่สำคัญต้องนำกระดูกลูกชายกลับบ้านไปด้วย น่าสงสาร เห็นมาหลายๆเคสก็น่าสงสารทุกเคส ที่คุณแม่ต้องมารับศพคนเดียวและนำกระดูกกลับ ต่างจังหวัด
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี
