นายสุธี ทองสวรรค์ ที่ปรึกษา นายกเทศบาลเมืองบางคูรัดพร้อมหน่วยงานลงพื้นที่ ซ.วัดลาดปลาดุก อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เข้าตรวจเยี่อมช่วยเหลือยายเก็บของเก่าขายและบ้านไม่มีน้ำไม่มีไฟฟ้าใช้พร้อมทั้งบ้านที่รองน้ำฝนใช้
นายสุธี ทองสวรรค์ ที่ปรึกษา นายกเทศบาลเมืองบางคูรัด กล่าวว่า คุณยายเป็นคนต่างถิ่นที่มาอาศัยอยู่ตรงนี้นานแล้ว จะมีการเอาสุนัขมาเลี้ยง และมีการมั่วสุมเวลากลางคืน ก็ได้รับการแจ้งจากประชาชนมาหมายครั้ง ทางเทศบาลในเบื้องต้นก็ได้ประสานไปทาง พม. ให้ พม.จังหวัดนนทบุรีมาจัดการกับยายว่าจะให้ไปอยู่ตรงไหน ในขณะที่ตนได้สอบถามยายเขา ยายมีทะเบียนบ้านอยู่ไทรน้อย มีบ้านเลขที่และบัตรประชาชน ก็จะติดต่อไปทางญาติเดิมของคุณยายว่าให้ ยายไปอยู่ที่บ้านญาติได้ไหม แต่ยายเขาไม่อยากไปอยู่ ก็จะไปขออาศัยอยู่ที่วัดลาดปลาดุก ซึ่งเป็นอดีตที่สามียายเคยอยู่ ตนก็เห็นว่ามันไม่เหมาะสมเพราะว่าเป็นวัด ซึ่งตรงนี้ไม่สามารถรื้อบ้านได้เพราะเป็นที่เอกชน แต่ยายเขาก็ย้ายไปหลายที่แล้วไม่ใช่แค่ที่นี้ และตรงนี้จะเป็นปัญหากับชาวบ้านเพราะเวลากลางคืนจะมีเด็กวัยรุ่นมามั่วสุมกัน และมีขโมยสายไฟบ้าง ซึ่งจับได้ไปแล้วครั้งหนึ่ง
ซึ่งตรงนี้ก็เป็นที่จัดสรรคของร่วมจิตแลนด์ ซึ่งขายเป็นแปลง ก็จะมีโฆษณา จะมีำฟฟ้า น้ำประปา ถนน ท่อระบายน้ำ ซึ่งน้ำที่ใช้เมื่อก่อนเป็นน้ำบาดาลไม่ใช่ประปา ซึ่งยายเจ้าบอกบ้านก็มาอยู่ก่อนตอนนั้นไม่รู้ว่าใช้ยังไง แต่ยายก็รองน้ำฝนมาตลอดพอท่าน ดร.มาท่านก็ไปขอน้ำประปาข้างนอก เดินท่อเล็กก็แสดงว่าตอนนี้ในหมู่บ้านนี้มีน้ำประปาใช้กันแล้ว แต่ไม่ใช่น้ำประปาที่ยายบอก คือน้ำประปาชั่วคราว ซึ่งตรงนี้ทางหารประปาก็ได้บรรเทาทุกข์ไปแล้ว แต่ความต้องการของ ดร.และประชาชนคือ ต้องการให้การประปาเข้ามาเดินท่อหลักในหมู่บ้านนี้ แต่ติดปัญหาว่าถนนไม่ใช่ทางสาธารณะประโยชน์ทั้งหมด มันเป็นทางภาระจำยอมซึ่งต้องให้เจ้าของที่ดินเดิมอนุญาติ ยกถนนเส้นนี้ให้กับทางเทศบาลเป็นทางสาธารณะประโยชน์ และทางเทศบาลก็จะmou กับทางการประปา
ทางเทศบาลก็จะใช้งบประมานที่มีอยู่บางส่วน และบางส่วนของการประปา นำน่ำประปามาให้กับยาย แต่ต้องใช้เวลา ซึ่งตอนนี้ทางท่าน ดร.เมธิกา ได้ไปร้องต่อศาลแล้ว เดือนมีนา ก็ต้องรอศาลตัดสินว่าจะเป็นอย่างไร เพราะถ้าเมื่อศาลตัดสินว่ายกให้เป็นทางสาธารณะประโยชน์ ยายไม่ต้องกังวนใจเพราะทางเทศบาลจะรีบดำเนินการให้เลย เพราะท่าน ดร.พิมพ์พัชชา นายกเทศบาลเมืองบางคูรัด ได้ติดต่อไปทางการประปานครหลวง และการประปามหาสวัสดิ์ไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ว่ารอเอกสารของศาลเท่านั้น
ดร.พิมพ์พัชชา หยิมการุณ นายกเทศบาลเมืองบางคูรัดกล่าวว่า ในเรื่องของการดูแลพี่น้องประชาชน ในเรื่องของคุณภาพชีวิต เป็นหน้าที่ของท้องถิ่นอยู่แล้ว ในเรื่องของที้มีลูกบ้าน หรือผู้ได้รับความเดือดร้อนร้องเรียนมาในเรื่องน้ำประปา ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าในพื้นที่ของเราจริงๆเรามีน้ำประปาใช้ 99 เปอร์เซ็น แต่ในกณีที่ไม่มีน้ำประปาใช้เป็นไปในเรื่องของที่จะวางมิดเตอร์ประปาฟรือท่อประปา มันจะต้องว่าในบริเวณที่ถนนสาธารณะประโยชน์ ซึ่งบริเวณนี้ที่มีลูกบ้านอยู่ 8-9 หลังคาเรือน ซึ่งตอนนี้ถนนตรงนั้นเป็นถนนภาระจำยอม ซึ่งยังเป็นสิทธิ์ของเอกชน เลยทำให้ตัวเทศบาลและท้องถิ่น หรือทางประปาไม่สามารถนำงบทางราชการมาบริหารจัดการตรงนั้นได้เพราะเนื่องด้วยเป็นที่ของเอกชน ซึ่งเบื้องต้นบ้านลริเวณตรงนี้ได้มีการติดตั้งมิดเตอร์ประปาไว้ และลูกบ้านได้เดินท่อน้ำเข้าไปใช้ที่บ้านโดยที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเองเพราะถนนเส้นนั้นมันไม่ใช้ถนนสาธารณะ ซึ่งไม่สามารถนำงบไปใช้ในพื้นที่ของเอกชนได้เพราะเป็นระเบียนของรัฐ ซึ่งผู้ร้องเรียนก็ได้ร้องเรียนมา 2ปีกว่า ตนก็ได้เขาไปพูดคุยปรับความเข้าใจมาโดยตลอดและได้ติดต่อกับทางการประปามหาสวัสดิ์ท่านผอ.มาโดยตลอด ซึ่งเราไม่ได้นิ่งนอนใจในความเป็นห่วงพี่น้องประชาชน แต่ในกรณีที่มีบ้านไปปลูกเป็นเพิงอยู่เป็นคุณป้าคุณลุงซึ่งตรงนั้นไม่ทีบ้านเลขที่ ก็เป็นการอาศัยอยู่หรืออาจจะอยู่มานาน พอไม่ทีบ้านเลขที่และไม่มีการขออนุญาติก่อสร้างอย่างถูกต้องก็เลยทำให้ไม่สามารถของบ้านเลขที่ได้ เมื่อไม่มีบ้านเลขที่ก็จะไม่สามารถขอน้ำประปา หรือไฟฟ้าได้ แต่ในเบื้องต้นถ้าทางลูกบ้านร้องขอเรื่องน้ำมาทางเทศบาลก็เอารถน้ำไปบริการถือที่อยู่แล้ว ซึ่งดูแลมาตลอด ถ้าทางตรงนั้นยกเป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ทางเทศบาลก็ยินดีจะลงไปดูแลทันที
ทางด้านนางบุญเรือน จีนสุข อายุ81 ปี ซึ่งลองน้ำฝนเอาไว้ดื่มเอาใว้ใช้เล่าว่าตนใช้ชีวิตแบบนี้มานานเกือบ30ปีแล้วไม่ได้คิดอะไรส่วนน้ำประปาทางเจ้าหน้าที่เทศบาลบางคูรัดคอยเอามาให้ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเจ้าหน้าที่คอยเข้ามาดูแลอยู่เลื่อยขอขอบคุณที่เจ้าหน้าที่เทศบาลบางคูรัดที่คอยดูแล
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี