ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถ.สนามบินน้ำ อ.เมือง จ.นนทบุรี มีการนัดหมายกันจากกลุ่มผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยมี นายสำอางค์ ซ่อนกลิ่น ประธานชมรมกลุ่มผู้ค้าสลากรากหญ้าทั่วไทย พร้อมมวลชนประมาณ 100คน และกำลังเดินทางมาสมทบกันจากกลุ่มผู้ค้าสลากดั่งเดิมจากทั่วประเทศ มาจากหลายจังหวัด อาทิ สมุทรปราการ เลย นนทบุรี เลย โคราช นครศรีธรรมราช ฯลฯ เพื่อมาเรียกร้องให้ทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลพิมพ์สลากล็อตเตอรี่เพิ่มเติมจำนวนขึ้นจาก 120,000ใบ ให้เป็น 180,000ใบเท่ากับจำนวนสมาชิกที่ลงทะเบียนของผู้ค้าสลากล็อตเตอรี่เดิมในการแก้ไขปัญหาของการแย่งชิงสลากกันที่หน้าตู้ATMดังที่ปรากฏเป็นข่าวให้มีจำนวนเพียงพอต่อความต้องการเพราะขณะนี้Demand และ Supply ดีมานและซัพพลายไม่เท่ากันอยู่จึงทำให้เกิดปัญหาขึ้น

นายสำอางค์ ซ่อนกลิ่น ประธานชมรมกลุ่มผู้ค้าสลากรากหญ้าทั่วไทย กล่าวว่า สาเหตุที่มารวมตัวกันในวันนี้ มาจากความเดือดร้อนทีจากเดิมเรามีสลากขายในทุกงวด แต่จาก 2งวดที่ผ่านมาเราเกิดปัญหาสลากไม่พอเพียง เพราะทางสำนักงานกองสลากได้เพิ่มจำนวนคนเพิ่มเข้ามาอีก 70,000ราย รวมจากของเดิมเป็น 180,000ราย แต่จำนวนใบสลากมีให้แค่ 120,000รายเท่านั้น เพราะนั้นจะมีคนที่ไม่ได้หรือผิดหวัง 60,000ราย ต่องวด เพราะการกดซื้อกดจองล่วงหน้าจะดำเนินการได้เฉพาะวันที่ 5 และ วันที่ 20ของทุกเดือน ทำที่หน้าตู้ATM ซึ่งคิวต่อแถวที่5-10ก็ยังคงกดจองสิทธิ์กันได้อยู่ แต่เพราะเกิดการตบตีแย่งชิงกันดังที่ปรากฏเป็นข่าวออกไปเพราะสิทธิ์การจองไม่เพียงพอ ต่อแถวกดจองกันได้เต็มที่ ไม่เกิน 3คิว สิทธิ์ก็เต็มหมดแล้ว หรือคิวแรกก็หมดแล้ว มันจึงเกิดปัญหาชิงกดกันที่หน้าตู้ ปัญหานี้เคยเกิดกันมาแล้วเมื่อปี 2558-2559 ทางกองสลากจึงพิมพ์สลากเพิ่มเติมให้ จนเป็น 100ล้านฉบับในปัจจุบัน จนเกิดปัญหาวนขึ้นมาอีกเหมือนเดิม

อยากฝากบอกทางคณะผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลว่า ถ้าไม่คิดวางแผนกำหนดการบริหารสลากให้เพียงพอกับผู้ค้าขาย ก็ไม่สมควรที่จะเปิดรับผู้ค้าคนใหม่เข้ามาเพิ่มอีก ในเมื่อสลากมีจำนวนยังไม่เพียงพอแต่จำนวนคนผู้ค้ามีเยอะกว่า จะให้ผู้ค้าสลากรายย่อยมาทะเลาะกันตีกันเองแบบนี้หรือ มันไม่ใช่มืออาชีพ ผมอยากเรียกร้องให้คณะบอร์ดผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดนี้ออกไปมากกว่า

ขณะที่การเพิ่มสลากดิจิทัลในระบบสร้างปัญหาขึ้นแน่นอนเพราะจากเดิมสลากที่มีอยู่ 140,000ใบ ได้ทยอยไปเข้าระบบดิจิทัลทีละ 10,000ใบ สุดท้ายจากที่เคยไม่พอก็ยิ่งขาดแคลนหนักเข้าไปอีก แทนที่จะทำสลากของดิจิทัลแยกออกไปเลย ไม่เกี่ยวกับจำนวนเดิม แต่ไม่ทำ     ข้อเรียกร้องในวันนี้ของทางกลุ่มคือทางสำนักงานกองสลากต้องจัดสรรบริหารสลากให้ดี จะพิมพ์เพิ่มหรือไม่  แต่คนใหม่กับคนเก่าต้องมีสลากเพียงพอ สุดท้ายก็ต้องพิมพ์เพิ่มอยู่ดี

ถามว่าทำไมทางกลุ่มดั่งเดิมของผู้ค้าสลากทำไมไม่เข้าร่วมดิจิทัลเพราะประชาชนจะได้สลากในราคาถูกมาตราฐานไม่เกิน 80บาท ขออธิบายว่ามันเป็นวิถีชีวิตดั่งเดิมของผู้ค้าขายมา20-30ปีดั่งเดิมคือ มันคือการเร่ขายสบากใบ ขายเงินติด เงินเชื่อก่อนได้ ปั่นจยย.หรือ ปั่นจย.ขายตามงานบวช งานแต่ ตามบ้าน หมู่บ้านชุมชน ตามวิถีดั่งเดิม แต่พอมาเปิดขายแบบประเภทเสือนอนกินแบบดิจิทัล คนรุ่นเก่าหลายคนยังไม่พร้อมขาย  ทางกองสลากไม่เคยออกมาอธิบายชี้แจงหรือประชาสัมพันธ์อะไรเลยเหมือนปี2558 ที่ให้มีดิจิทัลเลย หลายคนทำไม่เป็น ตอนนี้ทางกองสลากดันบอกมาก่อนได้ก่อน วันนี้จะมาปักหลักค้างคืนจนกว่าจะได้คำตอบออกมาต้องให้จบ คำตอบวันนี้คือให้ทางกองสลากต้องพิมพ์สลากเพิ่มให้เท่าจำนวนผู้ค้าที่ขาดแคลนก็จบปัญหาทุกอย่าง ทราบข่าวมาว่าทางคณะผู้บริหารไปรวมงานสลากโลกที่ประเทศสิงห์โปร์ หน้าจะงามหน้าเพราะผู้ค้าสลากไปตีไปตบกันหน้าตู้เองในประเทศไทย  

ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต จ.นนทบุรี