นครปฐม บิ๊กโจ๊ก ลั่นออกหมายจับ 6 ตร.แล้วมีอีกแน่ ซัดผู้การฯ ผู้กำกับแย่ ปล่อยตำรวจอยู่ใต้อิทธิพล

3

ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของการสอบสวนคดียิง “สารวัตรแบงค์” ตำรวจทางหลวง คางานเลี้ยงบ้านกำนันนก ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม โดยมี พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ได้เดินทางกลับเข้ามาในเข้าร่วมในการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 6 นาย ที่ถูกออกหมายจับหลังจากไปติดตามการงมหาเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกออกหมายจับ ประกอบด้วย พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สมสุข อายุ 52 ปี สว.สส.สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร, ร.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ แตงอำไพ อายุ 58 ปี บก.ทล., ร.ต.ท.นิมิตร สลิดกุล อายุ 57 ปี รอง สว.จร.สภ.เมืองนครปฐม, ร.ต.อ.ณัฏฐพล นาคกร อายุ 59 ปี บก.ทล., ร.ต.ท.ประสาร รอดผล อายุ 58 ปี บก.ทล. และ ร.ต.ต.สรรเสริฐ ศรีสวัสดิ์อายุ 55 ปี บก.ทล.ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ร่วมกันทำลายหลักฐาน และร่วมกันช่วยผู้อื่นกระทำความผิด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่าสำหรับการออกหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 6 นายคือชุดที่ปรากฏชัดเจนว่ามีส่วนเกี่ยวกับการซ่อนทั้งปืนและเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งทั้งหมดให้การรับสารภาพบางส่วนแต่การรับสารภาพหรือไม่รับไม่ใช่ประเด็น โดยศาลเชื่อในพยานหลักฐาน เริ่มจากมีรการดึงปืนออกจากตัวนายหน่องและพานายหน่องและกำนันนกหลบหนี เป็นพฤติกรรมชัดเจนตามข้อหา ซึ่งในประเด็นที่มีการจับตัวนายหน่องไว้แล้วแต่ก็มีการปล่อยตัวไป ซี่งถือว่าแย่ทั้ง 20 กว่าคน ซึ่งมีพยานส่วนไหนก็ออกหมายจับไปก่อน

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า วันนี้ถ้าไม่มีตำรวจไปช่วยเหลือการทำลายสถานที่เกิดเหตุ การเก็บวัตถุพยาน คนอย่างกำนันนกไม่ได้จบอะไรมาเลยไม่มีความรู้อะไรเลยจะทำได้อย่างไรและเรื่องการอารักขา รวมถึงที่รองสารวัตรจราจรได้นำอาวุธปืนไปให้กำนันนกใช้และนำไปส่งต่อให้นายหน่องใช้ และไม่ได้โอนชื่อและตัวยังเอารถของกำนันนกไปซ่อนที่บ้านอีกหลังหนึ่ง พฤติกรรมชั่วๆ แบบนี้ ต้องปราบให้หมด และตำรวจทำตัวไปเป็นลูกน้องเขา ซึ่งคนเหล่านี้ที่เกิดขึ้นมาได้เพราะตำรวจไปเป็นเบ๊ให้เขา และบางคนอยู่ตั้งแต่ตนเองเป็นร้อยตำรวจเอกที่นี่ก็ต้องเอาซะที ส่วนชุดนี้มีตำรวจที่พาหลบหนีด้วย และมีส่วนอื่นอีก ซึ่งส่วนอื่นอีกที่มีหลักฐานครบถ้วนอยู่แล้วด้วย

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า นายหน่องไม่ได้มีปัญหาโกรธเคืองมาก่อนกับสารวัตร ซึ่งมีลักษณะบอกให้นายหน่องทำ ซึ่งต้องแยกกันออกมา โดยในส่วนตำรวจที่อยู่ในสังกัดตำรวจภูธรภาค 7 ได้มีคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งไว้แล้ว ในส่วนของตำรวจทางหลวงก็จะเป็นหน้าที่ของกองบัญชาการสอบสวนกลางที่จะมีการดำเนินการ อย่างไรก็ตามก็จะมีการพิจารณาเช่นเดียวกัน ส่วนพ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สมสุข อายุ 52 ปี สว.สส.สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และร.ต.ท.นิมิตร สลิดกุล อายุ 57 ปี รอง สว.จร.สภ.เมืองนครปฐม ได้ให้มีการออกจากราชการไว้แล้ว  และจะมีตำรวจและพลเรือนที่จะออกกหมายจับต่อไป

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า ท่านผบตร.และผู้บังคับบัญชาทำระดับได้มีการรสั่งการชัดเจน ซึ่งตำรวจมีทั้งหมด 2 แสนกว่านายแน่นอน ต้องมีคนดีมากกว่าคนไม่ดี คนไม่ดีก็ต้องไม่เลี้ยงไว้ และปฏิบัติเหมือนผู้ต้องหารายทั่วไปและต้องกำชับผู้บังคับบัญชาทุกระดับว่าต้องไปกำชับลูกน้องตัวเองต้องไม่ไปเดินตามนักการเมืองและผู้มีอิทธิพล และตำรวจที่เป็นระดับผู้กำกับ ที่จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจมาว่าเขาประสิทธิประสาทวิชามาให้แล้วแต่กลับมาเดินตามนักการเมือง ซึ่งไม่มีความรู้อำไรเลย ซึ่งในส่วนของรองสารวัตรจราจรเองก็ยังขับรถให้ผู้การอยู่เลย ซึ่งความย่ำแย่แบบนี้ ทั้ง25 คนนี่ก็ย่ำแย่แล้ว แต่ผู้การฯและผู้กำกับก็ยิ่งย่ำแย่เข้าไปอีก  ถ้ามีความเข้มแข็งเรื่องแบบนี้ก็จะไม่เกิด เราอยู่ในพื้นที่แบบนี้ก็ยังปล่อยให้คนเหล่านี้พกปืนได้ตามอำเภอใจได้อย่างไร และจะเริ่มพรุ่งนี้ต่อ คาดว่าอีก 2 อาทิตย์ก็น่าจะแล้วเสร็จ และจากนี้จะมีการไล่เครือข่ายกำนันนกว่าจะมีใครร่วมขบวนการบ้าง ก็ต้องไล่มาดำเนินคดีให้หมดและการตรวจสอบทางธุรกิจว่ามีการทำต้องทำกฏหมายด้วยหรือไม่

ภาพ-ข่าว THAIREFERENCE จ.นครปฐม

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here