ตำรวจสภ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ว่าตนเองพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ออกตรวจหมู่ 9 และหมู่ 7 ในเขตตำบลหนองยาง ระหว่างที่ขับรถยนต์มาบริเวณคันคลองหลัง อบต.หนองยาง ประมาณ 200 เมตร ได้พบสุนัขเป็นหมาจิ้กจอก ตัวก็ไม่โตเท่าไร หางเป็นพ่วง เดินอยู่ริมต้นไม้ข้างคลองกึงโดนกึงวิ่ง หลังจากนั้นก็สอบถามชาวบ้านในระแวกนั้นทราบว่าที นี้มีสุนัขจิ้กจอกมาอาศัยอยู่ในป่านานกว่า 40 ปี แล้ว หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวพร้อมร.ต.ต.วรังสรรค์ จงเกษกรณ์ รอง สว.สืบสวน ได้เดินทางไปพบนายพนมแพร เจนเกษกรณ์ สารวัตรกำนันตำบลหนองยาง ได้กล่าวว่าและเปิดเผยพร้อมพาผู้สื่อข่าวไปที่ป่าไม้เต็งรัง และป่าลม์ บริเวณในเขตตำบลหนองยาง ระหว่างหมู่ 7 และหมู่ 9 เนื้อที่ ประมาณ ไม่ต่ำกว่า 500 ไร่ ซี่งเป็นป่าไม้เต็งรัง และสวนปาลม์ ของนายประทวน เป๋าจีน ไม่ต่ำกว่า 300 ไร่ ซึ่งป่านั้นเป็นที่อยู่อาศัยของสุนัขจิ้กจอกมานานกว่า 40 ปี พอช่วงหลังนายประทวนได้มาทำสวนปาลม์ 300 ไร่ สุนัขจิ้งจอกก็ยังมาอาศัยอยู่ในป่า โดยจะเดินเข้าออกเป็นฝูง และก่อนหน้านั้นสุนัขจิ้งจอก ได้ย้ายฝูงไปอาศัยอยู่ที่เขาหนองระแหง ซึ่งเป็นเขตติดต่อระหว่างอำเภอหนองฉาง และอำหนองขาหย่าง หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ย้ายฝูงกลับมาอยู่ป่าหมู่ 9 และหมู่ 7 ที่อาศัยเดิม ซึ่งช่วงหลังมานั้นสุนัขจิ้กจอกได้ออกลูกหลานแพร่พันธุ์มาเป็นจำนวนมาก และช่วงหลังมา สุนัขจิ้กจอกได้เชี่ยวไปกินไก่ เป็ดชาวบ้าน ที่ขังไว้ในเล่าในระแวกใกล้เคียงกับป่า ซึ่งงสุนัขจิ้กจอกช่วงเวลากลางวันจะไม่คอยพบ หรือบ้างครั้งก็พบว่าไปนอนในท่อซิเมตรระบายน้ำตามถนน แต่ส่วนช่วงกลางคืนส่งสียงเห่าหอน และมีผู้พบเห็นบ๋อย ซึ่งชาวบ้านในระแวกนั้นวาดผวากับเสียงเห่าหอนของสุนัขจิ้กจอกในป่าเวลากลางคืน และในช่วงฤดูหนาวนั้นจะส่งเสียงเห่าหอนมากเป็นพิเศษ ซึ่งพร้อมด้วยชาวบ้านต่างก็ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร่ ซึ่งสุนัขจิ้กจอกไม่น้าจะมาอยู่ในบริเวณแห่งนี้ ซี่งอยู่ใกล้เขตชุมชน โรงเรียนหมู่ บ้าน โดยจำเพราห่างหลัง อบต.หนองยาง 500 เมตร ห่างโรงเรียน 200 เมตร โดยจำเพราะห่างอำเภอหนองฉาง แค่ 6กิโลเมตร ซึ่งเกรงว่าอนาคตข้างหน้าจะแพร่พันธ์มากขึ้นจะเป็นอันตรายกับประชาชน จึงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยดำเนินงานด้วย
ภาพ-ข่าว นายพชร พัสกุล จ.อุทัยธานี